นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า ยังคงมีโอกาสที่เธอและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นางเพโลซีเปิดเผยกับรายการ "State of the Union" ของสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า "ดิฉันเชื่อว่านายมนูชินจะนำเสนอบางสิ่งที่จะทำให้เราสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ และดิฉันเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วเราจะตกลงกันได้"
"สิ่งที่เรากำลังผลักดันในเวลานี้ก็คือข้อเสนอที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงกรอบเวลาที่พอเหมาะ และวงเงินในโครงการ Paycheck Protection Program (PPP) เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งสนับสนุนบุคลากรแนวหน้าที่ร่วมต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งดิฉันคิดว่า เรามีโอกาสที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง" นางเพโลซีกล่าว
"นอกเหนือจากวงเงินในโครงการ PPP แล้ว เรายังจำเป็นต้องอัดฉีดเงินเพิ่มขึ้นในการช่วยเหลือธุรกิจสายการบิน และธุรกิจประเภทอื่นๆ " นางเพโลซีกล่าว
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงมีความเห็นต่างเกี่ยวกับขนาดและขอบข่ายของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งได้หมดอายุลงแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. ซึ่งพรรครีพับลิกันต้องการลดวงเงินช่วยเหลือคนว่างงานลงสู่ระดับ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ขณะที่พรรคเดโมแครตต้องการรักษาวงเงินดังกล่าวที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา เกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายพาวเวลและนายมนูชินยอมรับว่า ขณะนี้มีเงินเหลือหลายแสนล้านดอลลาร์ในกองทุนเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ซึ่งมีวงเงินทั้งหมด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเฟดและรัฐบาลสหรัฐเห็นพ้องกันว่าเม็ดเงินในส่วนที่ยังไม่มีการใช้ดังกล่าวสามารถโยกย้ายไปช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ เม็ดเงินที่เหลือดังกล่าวมาจากโครงการ Paycheck Protection Program ของรัฐบาลสหรัฐ และโครงการ Main Street Lending Program ของเฟด