สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 214 ต่อ 207 ผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อคืนนี้ โดยร่างมาตรการวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์นี้ เป็นข้อเสนอของสมาชิกพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ดี คาดว่าร่างมาตรการดังกล่าวจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก โดยนายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ได้คัดค้านร่างมาตรการฉบับนี้ เนื่องจากเขาเล็งเห็นความจำเป็นในการเพิ่มเงินให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ซึ่งเสนอโดยพรรคเดโมแครตนั้น ครอบคลุมถึง:
- การคงวงเงินช่วยเหลือผู้ไม่มีงานทำจำนวน 600 ดอลลาร์/สัปดาห์ไปจนถึงเดือนม.ค.ปีหน้า
- การมอบเช็คเงินสดโดยตรงให้กับชาวอเมริกันส่วนใหญ่รอบที่สองคนละ 1,200 ดอลลาร์
- มอบเงิน 4.36 แสนล้านดอลลาร์ให้กับโครงการเยียวยารัฐบาลรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นเป็นระยะเวลา 1 ปี
- ให้อำนาจในการจัดหาเงินกู้เพิ่มเติมรอบที่สองให้กับโครงการ Paycheck Protection Program (PPP) เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
- มอบเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับสายการบินต่างๆ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน
- อัดฉีดเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับโครงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการติดตามผู้ติดเชื้อ
- อัดฉีดเงิน 2.25 แสนล้านดอลลาร์ให้กับโครงการด้านการศึกษา และ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับโครงการดูแลเด็ก
- กันเม็ดเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ไว้เพื่อช่วยเหลือด้านการเช่าและการจำนองอสังหาริมทรัพย์
รายงานระบุว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายสตีเวน มนูชิน ได้ต่อรองด้วยการเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมถึงการให้เงินเยียวยารัฐบาลรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นจำนวน 2.50 แสนล้านดอลลาร์, ให้เงินช่วยเหลือคนไม่มีงานทำสัปดาห์ละ 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์, อัดฉีดเงิน 1.50 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่โครงการศึกษา, อัดฉีดเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับสายการบินต่างๆ เพื่อช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน และกันเม็ดเงินจำนวน 6 หมื่นล้านดอลลาร์เอาไว้เพื่อช่วยเหลือด้านการเช่าและการจำนองอสังหาริมทรัพย์