ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้คณะบริหารของทำเนียบขาวระงับการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กับพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
"ผมได้สั่งการให้คณะบริหารของผมระงับการเจรจาไปจนถึงหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผมชนะการเลือกตั้ง เราก็จะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก และภาคธุรกิจขนาดเล็ก" ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันอังคารตามเวลาสหรัฐ
การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐยังคงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น มิฉะนั้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าขณะนี้มีความคืบหน้าในการสร้างงาน และการบริโภค แต่ผู้กำหนดนโยบายยังคงต้องเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป มิฉะนั้นจะส่งผลให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างอ่อนแอ และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ พยายามเดินหน้าเจรจาต่อรองกันเกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่คณะบริหารของทำเนียบขาวเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์