นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลียได้เสนอแผนการคลังเพื่อรับมือกับปัญหาหนี้และการขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ รวมไปถึงความมุ่งมั่นที่จะลดอัตราการว่างงานในประเทศ
นายฟรายเดนเบิร์กเปิดเผยระหว่างการแถลงงบประมาณรายจ่ายต่อรัฐสภาในช่วงค่ำวานนี้ว่า ออสเตรเลียจะขาดดุลงบประมาณ 2.137 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.52 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 11% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2564 และคาดว่าอัตราการว่างงานในช่วงปลายปีนี้จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2541
นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่า "มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจอย่างไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน และไม่ใช่แค่ในออสเตรเลีย แต่เป็นไปทั่วทั้งโลก สิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่ตอนนี้ก็คือ การสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการลงทุนเพื่อให้การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆ ด้วย"
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีคลังออสเตรเลียมีขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจออสเตรเลียเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากเผชิญกับภาวะถดถอย อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19