นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น (SEZ) ทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้งในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายสีในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินวิสัยทัศน์ของผู้นำจีน และการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเปิดกว้างด้านเศรษฐกิจ
นายสีกล่าวว่า การก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นถือเป็นการริเริ่มที่ยิ่งใหญ่โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน และจีนเองกำลังมีความคืบหน้าในการปฏิรูปและการเปิดกว้างเศรษฐกิจ รวมทั้งการผลักดันระบบสังคมนิยมของจีนให้มีความทันสมัยมากขึ้น
"เซินเจิ้นเติบโตอย่างก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจแห่งนี้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เมื่อพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ทั้ง 5 ประการ ซึ่งได้แก่ จากการเป็นเมืองชายแดนเล็กๆ ก้าวกระโดดสู่การเป็นมหานครระดับสากลที่มีอิทธิพลต่อโลก, จากการดำเนินการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ ก้าวกระโดดสู่การปฏิรูปเชิงรุกในทุกๆ ด้าน, จากเดิมที่มุ่งเน้นการพัฒนาการค้าต่างประเทศ ก้าวกระโดดสู่การเปิดกว้างในระดับสูงทุกๆ ด้าน, จากความก้าวหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจ ก้าวกระโดดสู่ความร่วมมือด้านสังคมนิยมที่เป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการเมือง วัฒนธรรมและจริยธรรม สังคม และความก้าวหน้าด้านระบบนิเวศน์ และจากการสร้างความเชื่อมั่นว่าความต้องการพื้นฐานของประชาชนจะได้รับการตอบสนอง ก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จในการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน" นายสีกล่าว
ทั้งนี้ นายสีเรียกร้องให้เซินเจิ้นสร้างตัวเองให้กลายเป็นผู้นำด้านการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมระดับโลก อีกทั้งเดินหน้าสร้างความสำเร็จในการพัฒนาทางจิตวิทยา และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพที่สูงขึ้น เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น, มีความเป็นธรรมมากขึ้น, มีความมั่นคง และมีความยั่งยืนมากขึ้น
ขณะเดียวกันนายสีเรียกร้องให้เซินเจิ้นเพิ่มความพยายามในการแก้ไขประเด็นต่างๆ เช่น การจ้างงาน, การศึกษา, การดูแลรักษาทางการแพทย์, ระบบประกันสังคม, ที่อยู่อาศัย, การดูแลผู้สูงอายุ, ความปลอดภัยของอาหาร, ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อง และความปลอดภัยสาธารณะ
นายสียังได้เรียกร้องให้เซินเจิ้นเดินหน้าสนับสนุนการสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area) และผนวกกฎระเบียบและกลไกทางเศรษฐกิจของทั้ง 3 ภูมิภาคนี้เข้าด้วยกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการกล่าวสุนทรพจน์ นายสีได้กล่าวต้อนรับประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูป, เปิดกว้าง และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ของจีนให้มากขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมานั้น เซินเจิ้นไม่อาจก่อตั้งขึ้นได้ หากปราศจากความร่วมมือของนานาประเทศ ซึ่งทำให้ในขณะนี้ เซินเจิ้นกลายเป็นโอกาสในการพัฒนาครั้งใหญ่ และให้ประโยชน์ในด้านการพัฒนาแก่ประเทศทั่วโลก