นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งในการจัดหาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของนานาประเทศ จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และจะช่วยให้รายได้ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 9 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2568
ในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ นางจอร์จีวาได้เรียกร้องให้สหรัฐและจีนเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแจกจ่ายวัคซีนให้กับประเทศทั่วโลกอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงประเทศกำลังพัฒนาและประเทศร่ำรวย เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านการเดินทาง, การลงทุน, การค้า และกิจกรรมอื่นๆ
นางจอร์จีวายังกล่าวด้วยว่า เธอมั่นใจว่า ท้ายที่สุดแล้ว สภาคองเกรสของสหรัฐและทำเนียบขาวจะสามารถตกลงกันได้ในการเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แม้ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า จะมีการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวได้เมื่อใด พร้อมกับกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ที่สหรัฐประกาศใช้ในช่วงต้นปีนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเธอคาดหวังว่า สหรัฐจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการดังกล่าวอีก
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.4% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงถึง 4.9% โดย IMF ระบุว่า การทบทวนปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่ดีกว่าคาดของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงไตรมาส 2 ขณะที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่รวดเร็วขึ้นในไตรมาส 3/2563