ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ด้านนักวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ล่าสุดว่า ผลการเลือกตั้งอาจจะออกมาในลักษณะ "Gridlock" หรือไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ซึ่งจะทำให้นโยบายสำคัญต่างๆ ที่ริเริ่มไว้ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงนโยบายการลดภาษี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,847.66 จุด เพิ่มขึ้น 367.63 จุด หรือ +1.34%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่านายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ด้านการค้ากับยุโรป
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,900 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนลดคาดการณ์แนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐ หลังจากที่การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างสูสี และคาดว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 14.2 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,896.2 ดอลลาร์/ออนซ์
-- สำนักข่าว CNN และ NBC รายงานว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะในรัฐมิชิแกน และวิสคอนซิน ซึ่งเพิ่มโอกาสให้กับนายไบเดนที่จะช่วงชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยชัยชนะดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ได้เปิดฉากว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อระงับการนับคะแนนในอย่างน้อย 2 รัฐ
รายงานระบุว่า การที่นายไบเดนชนะในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซินซึ่งเคยเป็นรัฐที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งปี 2559 นั้น ทำให้นายไบเดนมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐหรือ Electoral Vote เพิ่มขึ้นเป็น 264 คะแนน แซงหน้าปธน.ทรัมป์ซึ่งมีคะแนน 214 คะแนน โดยนายไบเดนต้องการอีกแค่ 6 คะแนนเท่านั้นก็จะได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 คะแนนจากทั้งหมด 538 คะแนน เพื่อชนะการเลือกตั้ง
-- นางเคต บราวน์ ผู้ว่าการรัฐโอเรกอนได้ขยายเวลาใช้คำสั่งฝ่ายบริหารในการกำกับดูแลความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและปกป้องเสรีภาพในการพูดในเมืองพอร์ตแลนด์ ขณะที่สหรัฐยังคงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวซึ่งตามกำหนดการเดิมจะสิ้นสุดลงในเวลา 17.00 น.ของวันพุธตามเวลาสหรัฐนั้น ได้ถูกขยายออกไปจนถึงเวลา 17.00 น.ของวันศุกร์นี้ เว้นแต่จะมีการยกเลิกหรือขยายเวลาออกไปอีก
-- นายบิล สเตเปียน ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะเรียกร้องให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่อย่างเป็นทางการในรัฐวิสคอนซิน หลังจากพบว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำปธน.ทรัมป์เล็กน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่ใกล้เสร็จสิ้นการนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งในรัฐดังกล่าว
"มีรายงานเกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบในหลายเคาน์ตีในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของผลการนับคะแนน โดยท่านประธานาธิบดีเตรียมเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ และเราจะดำเนินการดังกล่าวโดยทันที" นายสเตเปียนกล่าว
-- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศออกรายงานระบุว่า ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
"แม้ว่าการที่ยังไม่มีข้อสรุปต่อการเลือกตั้งอาจเพิ่มความผันผวนในตลาดการเงิน แต่เราประเมินว่าสถาบันของสหรัฐจะสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความล่าช้าในการนับคะแนนเลือกตั้ง รวมทั้งการโต้แย้งผลการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้น โดยสอดคล้องกับกรอบนิติรัฐ โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบใดๆ ต่ออันดับความน่าเชื่อถือ" รายงานระบุ
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยแสดงความงงงวยต่อการตีตื้นขึ้นมาของคะแนนเสียงของนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต
"เมื่อวานนี้ คะแนนเสียงของผมกำลังนำอยู่ในหลายรัฐที่สำคัญ โดยเกือบทั้งหมดเป็นรัฐที่พรรคเดโมแครตเคยชนะการเลือกตั้ง แต่แล้วคะแนนเสียงที่ผมเคยนำอยู่ก็ได้เริ่มหายไปทีละรัฐอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ขณะที่มีการนับบัตรเลือกตั้งที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดเปิดเผยวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย. ออสเตรเลียจะเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย. เยอรมนีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. อียูเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งตรงกับช่วงเช้าของวันที่ 6 พ.ย. ตามเวลาไทย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.ย., เยอรมนีมีกำหนดเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย., ฝรั่งเศสจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย., อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.จากฮาลิแฟกซ์, สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย.