ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ และตลาดหุ้นเอเชีย ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากนายโจ ไบเดน ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง และให้คำมั่นที่จะใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญด้านอื่นๆ
-- นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งสัญญาณว่า เขามีแผนที่จะจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
รายงานระบุว่า นายไบเดนได้แต่งตั้งนายเดวิด เคสเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) เข้าร่วมในคณะทำงานด้านการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และคาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อบุคลากรคนอื่นๆในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
รายงานยังระบุด้วยว่า นายไบเดนได้พูดคุยกับสมาชิกพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ทีมงานของนายไบเดนยังได้เรียกร้องให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุนมาตรการดังกล่าว ก่อนที่นายไบเดนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2564
-- นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกัน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 และนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันมีความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันในการสนับสนุนนายไบเดนและนางแฮร์ริส
"แม้เราจะมีมุมมองด้านการเมืองที่แตกต่างกัน แต่ผมรู้ว่า โจ ไบเดน เป็นคนดี และขณะนี้เขาได้รับโอกาสให้เข้ามาบริหารประเทศ และจะหลอมรวมประเทศของเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน" นายบุชกล่าวในแถลงการณ์
-- สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ขณะนี้คนใกล้ตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มไม่เห็นด้วยกับการที่ปธน.ทรัมป์ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง โดยนายจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของปธน.ทรัมป์ หรือแม้แต่นางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ต่างก็แนะนำให้ปธน.ทรัมป์ยอมรับชัยชนะของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46
แหล่งข่าวเปิดเผยกับ CNN ว่า นายคุชเนอร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของปธน.ทรัมป์ด้วยนั้น ได้เข้าไปพูดคุยกับปธน.ทรัมป์และแนะนำให้ปธน.ทรัมป์ประกาศความพ่ายแพ้ ขณะนี้นางเมลาเนียก็ได้กล่าวกับปธน.ทรัมป์เป็นการส่วนตัวว่า เวลาของเขาได้หมดลงแล้ว และขอให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้
-- นายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนตลาดเกิดใหม่ และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตอล พาร์ทเนอร์สเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า หากนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ก็จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนายไบเดนมีแผนการที่จะเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากบริษัทและชาวอเมริกันที่ร่ำรวย
โมเบียสระบุว่า "แผนการปรับขึ้นภาษีของไบเดนจะลดความน่าสนใจของนักลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นในตลาดวอลล์สตรีท"
"แต่ปธน.ไบเดนจะเป็นผลดีสำหรับสำหรับตลาดเกิดใหม่ และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก เพราะนักลงทุนจะถอยออกจากตลาดสหรัฐ"
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย. และเยอรมนีเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย. ขณะที่สถาบัน ZEW มีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของอียูและเยอรมนี ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย.