สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ขณะนี้คนใกล้ตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มไม่เห็นด้วยกับการที่ปธน.ทรัมป์ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง โดยนายจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของปธน.ทรัมป์ หรือแม้แต่นางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ต่างก็แนะนำให้ปธน.ทรัมป์ยอมรับชัยชนะของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46
-- เว็บไซต์ข่าวแท็บลอยด์หลายแห่งรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่ใช่แค่พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งเท่านั้น แต่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการหย่าร้าง หลังจากผู้ช่วยของนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 เปิดเผยว่า เมลาเนียกำลังนับถอยหลังที่จะขอหย่ากับทรัมป์ และกำลังเจรจาต่อรองเพื่อให้บาร์รอน ทรัมป์ บุตรชาย มีสิทธิอย่างเท่าเทียมในกองมรดกของทรัมป์
-- นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ กล่าวว่าการที่นายโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อาจไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนายไบเดนมีนโยบายปรับขึ้นภาษีเงินได้ของชาวอเมริกันที่มีฐานะร่ำรวย และมีแผนที่จะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากระดับ 21% เป็น 28% ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับนโยบายอื่นๆ ของนายไบเดน ซึ่งรวมถึงการออกกฎข้อบังคับที่เข้มงวดต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น อัลฟาเบท และ เฟซบุ๊ก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
-- นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แสดงความยินดีต่อนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ และนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ ที่คว้าชัยในการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมแสดงความหวังที่จะทำงานร่วมกับนายไบเดน เพื่อเสริมสร้างพันธมิตรด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
-- นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ว่า การที่นายโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อาจเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นโตเกียว เนื่องจากชัยชนะของเขาทำให้มีการคาดการณ์มากขึ้นว่า เขาจะออกมาตรการกระตุ้นทางการคลังขนานใหญ่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-- หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการแสดงความหวังในแง่ดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่นายโจ ไบเดน ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนอีกสำนักหนึ่ง ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ว่า การจะปรับปรุงความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศให้ฟื้นคืนได้นั้น ควรเริ่มที่การค้าและการฟื้นฟูเจรจาการค้า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความเข้าใจ และความไว้วางใจซึ่งกันและกันกลับคืนมาได้อีกครั้ง
-- ประธานาธิบดีมูน แจอิน ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะติดต่อสื่อสารในหลายมิติกับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะสุญญากาศในความสัมพันธ์ รวมถึงกระบวนการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี พร้อมเสริมว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะสื่อสารหลายทางกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่และคณะบริหารชุดใหม่ของสหรัฐที่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนม.ค.ปีหน้านี้
-- นายเอสวาร์ ปราสาด อดีตหัวหน้าฝ่ายกิจการจีนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงความเห็นว่า สหรัฐภายใต้การบริหารของนายโจ ไบเดน อาจให้ความร่วมมือกับจีนในประเด็นสุขภาพและการแก้ปัญหาโลกร้อน ขณะที่ทั้งสองประเทศยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันในประเด็นอื่นๆ
-- คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา จะประกาศผลการเลือกตั้งเบื้องต้นในวันนี้ หลังผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศกว่า 37 ล้านคนต่างทยอยออกมาลงคะแนน โดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งคาดการณ์ว่า นางอองซาน ซูจี จากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) จะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งอีกสมัย หลังจากที่พรรคของเธอเคยคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2558
-- สหรัฐอเมริกากลายเป็นประกาศแรกของโลกที่มียอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิน 10 ล้านราย หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1 ล้านรายในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาดรอบที่ 3 ในประเทศ
-- รัฐบาลอังกฤษออกมาตรการเข้มงวดในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับเดนมาร์ก โดยกำหนดว่าคนขับรถขนส่งสินค้าที่ไม่ถือสัญชาติอังกฤษและเคยเดินทางผ่านเดนมาร์กในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่สามารถผ่านชายแดนอังกฤษได้ หลังจากประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายจากตัวมิงค์มาสู่คนในเดนมาร์ก ซึ่งทำให้ชาวอังกฤษที่เดินทางกลับจากเดนมาร์กจำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
-- นายแมม บุญเฮง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ย.) กัมพูชาได้ตัดสินใจปิดสถานที่ทางวัฒนธรรมและบันเทิงทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสอง นอกจากนี้ นายนารอนยังสั่งปิดสนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติในกรุงพนมเปญชั่วคราว หลังจากโค้ชชาวกัมพูชารายหนึ่งมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกเมื่อวันเสาร์
-- กระทรวงกลาโหมของจีนได้เปิดเผยรายละเอียดของการประชุมระดับผู้บัญชาการทหารจีน-อินเดีย รอบที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นที่ภูมิภาคชุชุล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่าจะรักษาการเจรจาและการสื่อสารผ่านช่องทางทหารและการทูต ดำเนินการหารือในที่ประชุมครั้งนี้ให้เห็นผล นำไปสู่การยุติปัญหาที่ค้างคาอื่น ๆ เพื่อร่วมกันรักษาสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดน
-- ธนาคารกลางฝรั่งเศสเปิดเผยในวันนี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสปรับตัวลง 12% ในเดือนพ.ย. หลังจากฝรั่งเศสเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยมาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศใช้รอบใหม่นี้ มีความเข้มงวดน้อยกว่าที่ประกาศใช้ในครั้งแรก
-- นายเคซึเกะ ซาดาโมริ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดและความมั่นคงทางพลังงานประจำสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจทำให้ความต้องการน้ำมันทั่วโลกลดลง แม้ไม่น่าจะส่งผลกระทบรุนแรงเหมือนรอบก่อนหน้าเมื่อช่วงต้นปี เพราะไม่มีการสั่งปิดโรงเรียน และร้านค้าบางส่วนยังเปิดดำเนินการอยู่