ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) หลังจากไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่สุดของสหรัฐ และ BioNTech บริษัทยาของเยอรมนี แถลงความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานที่บ้านในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด หลังมีข่าวความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,157.97 จุด เพิ่มขึ้น 834.57 จุด หรือ +2.95% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,550.50 จุด เพิ่มขึ้น 41.06 จุด หรือ +1.17% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,713.78 จุด ลดลง 181.45 จุด หรือ -1.53%
-- เจพีมอร์แกนคาดว่า ดัชนี S&P500 จะแตะระดับ 4,000 จุดในช่วงต้นปี 2564 และระบุว่า ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ดีที่สุดสำหรับการปรับตัวขึ้นของดัชนีในรอบหลายปีที่ผ่านมา
เจพีมอร์แกนระบุในบันทึกถึงลูกค้าว่า "หลังจากตลาดเผชิญความเสี่ยงต่างๆ มานาน อาทิ สงครามการค้าโลก, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐนั้น ขณะนี้แนวโน้มตลาดชัดเจนขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง"
เจพีมอร์แกนคาดว่า ดัชนี S&P500 จะแตะระดับราว 4,500 ภายในสิ้นปี 2564 เพิ่มขึ้น 25% จากระดับปัจจุบัน หลังจากปรับตัวขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์มากกว่า 3% แตะเหนือระดับ 3,600
-- คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติให้ใช้แอนติบอดีของบริษัทอิไล ลิลลี่ แอนด์ โค (Eli Lilly & Co) ในการรักษาโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน (emergency use authorization -EUA) โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นอิไล ลิลลี่ พุ่งขึ้นกว่า 3% นอกเวลาซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเช้านี้
แถลงการณ์ของอิไล ลิลลี่ระบุว่า FDA ได้อนุมัติแอนติบอดีที่ชื่อว่า "Bamlanivimab" ของอิไล ลิลลี่ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยแอนติบอดี้ชนิดนี้ได้รับการยอมรับว่าสามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง ขณะที่ผลการศึกษาซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ระบุว่า แอนติบอดีชนิดนี้สามารถลดจำนวนไวรัส, อาการของโรค และลดอัตราของการที่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
-- ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐเพนซิลวาเนียเมื่อวานนี้ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดนในรัฐดังกล่าว
ทีมหาเสียงของทรัมป์และผู้ลงคะแนน 2 รายได้กล่าวหาว่า ระบบการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ของรัฐเพนซิลเวเนียขาดความโปร่งใส รวมถึงความสามารถในการตรวจสอบผู้ที่มาลงคะแนนด้วยตัวเอง
-- นายสตีฟ ดิคสัน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ว่า FAA กำลังทบทวนข้อเสนอขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX และคาดว่ากระบวนการทบทวนจะเสร็จสิ้นในไม่กี่วันข้างหน้านี้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า FAA เตรียมที่จะอนุมัติให้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวกลับมาให้บริการได้อีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 18 พ.ย.นี้ โดยนายดิคสันคาดว่า กระบวนการทบทวนจะเสร็จสิ้นในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทันทีที่ FAA พอใจกับประเด็นด้านความปลอดภัย
-- นายออคซานา ดราพคินา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขของรัสเซีย กล่าวว่า Sputnik V ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของรัสเซียมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% เช่นกันในการป้องกันไวรัสโควิด-19
"จากการสังเกตการณ์ของเรา Sputnik V มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% เช่นกัน" นายดราพคินากล่าว
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า วัคซีนของทางบริษัทมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
-- นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งช่วยรักษาชีวิต และทำให้โรงเรียนและภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหนึ่ง
"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าคุณโหวตให้ใคร คุณอยู่ฝั่งไหนก่อนการเลือกตั้ง มันไม่เกี่ยวกับว่าคุณเลือกพรรคไหน หรือมีมุมมองอย่างไร เราสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายหมื่นคน ขอเพียงแต่ละคนสวมหน้ากากอนามัยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า"
"ได้โปรด ผมขอวิงวอนให้คุณใส่หน้ากากอนามัย ทำสิ่งนี้เพื่อตัวคุณเอง เพื่อเพื่อนบ้านของคุณ โดยหน้ากากอนามัยไม่ใช่แถลงการณ์ทางการเมือง แต่เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มนำพาประเทศไปด้วยกัน" นายไบเดนกล่าว
-- สหภาพยุโรป (EU) เตรียมลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวนหลายร้อยล้านโดสของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ หลังมีข่าวว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
นายปีเตอร์ ลีส สมาชิกรัฐสภา EU ซึ่งเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขของ EU กล่าวว่า "ตามข้อมูลที่ผมได้รับมา เราจะมีการลงนามในข้อตกลงในไม่ช้า โดยทางบริษัทจะจัดส่งวัคซีนหลายร้อยล้านโดสให้แก่ EU"
-- นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเป็นคนแรกๆที่เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นร่วมกับ BioNTech เพื่อคลายความกังวลของผู้ที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นพ.เบอร์ลากล่าวว่า "เนื่องจากวัคซีนดังกล่าวมีจำนวนจำกัด ผมจึงไม่แน่ใจว่าคนทั่วไปจะเห็นชอบให้คนในวัยอย่างผมอยู่ในกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งผมก็จะต้องเคารพในจุดนี้"
-- ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนีแถลงวานนี้ว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์และ BioNTech พัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
ไฟเซอร์ และ BioNTech ระบุว่า ผลการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ
"ผมคิดว่าเราสามารถเห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์" นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานบริษัทไฟเซอร์กล่าว
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ จีนมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย. ขณะที่สถาบัน ZEW มีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของอียูและเยอรมนี ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. และออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากเวสต์แพค