ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเช้านี้ตามทิศทางดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้หลังขานรับข่าวเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาของสหรัฐ ซึ่งช่วยหนุนความหวังว่าโรคระบาดจะสิ้นสุดลง และเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น
ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ระบุว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทมีประสิทธิภาพ 94.5% ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
-- นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจำเป็นต้องเจรจากับบรรดาพันธมิตรเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์การค้าโลกโดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีน แต่นายไบเดนปฏิเสธที่จะระบุว่า เขาจะเข้าร่วมในข้อตกลงการค้าของเอเชียที่จีนสนับสนุนซึ่งได้มีการลงนามกันไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหรือไม่
ต่อข้อถามในการแถลงข่าวว่า สหรัฐจะเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) หรือไม่นั้น นายไบเดนกล่าวว่า เขายังไม่สามารถหารือเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐ เพราะเขายังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ
-- บริษัท S&P Dow Jones Indices LLC ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กออกแถลงการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า หุ้นของบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ จะถูกรวมในการคำนวณดัชนี S&P500 ก่อนการซื้อขายในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นในการซื้อขายนอกเวลาทำการ โดย ณ เวลา 07.41 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ราคาหุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 13.55%
-- บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94%
ทั้งนี้ โมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครจำนวน 30,000 ราย
โมเดอร์นายังระบุด้วยว่า วัคซีนของทางบริษัทสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิ 36-46 องศาฟาห์เรนไฮต์ ซึ่งเป็นอุณหภูมิในตู้เย็นมาตรฐานที่ใช้ในครัวเรือน และสามารถเก็บรักษาได้นาน 30 วัน
-- นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยุติลงในปีหน้า หลังมีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์
ทั้งนี้ บริษัทโมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากถึง 94.5% โดยโมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของ WHO จำนวน 65 รายได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด
"เราพบเจ้าหน้าที่บางรายติดเชื้อในสัปดาห์ที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่บางรายมีอาการป่วยเล็กน้อย" แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าแผนกโรคอุบัติใหม่ของ WHO กล่าว
ทางด้านนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เพิ่งกลับเข้าทำงาน หลังเข้าสู่กระบวนการกักตัว เนื่องจากได้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงต้นเดือนนี้
-- นายแมทธิว เฮปเบิร์น หัวหน้าโครงการ Operation Warp Speed ซึ่งมีเป้าหมายให้ชาวสหรัฐมีวัคซีนต้านโควิด-19 ใช้ภายในสิ้นปีนี้ กล่าวว่า วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ มีความสะดวกในการจัดส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลในชนบท เนื่องจากสามารถจัดเก็บได้ในอุณหภูมิที่ไม่ต่ำมาก
"วัคซีนโมเดอร์นากำลังอยู่ในกระบวนการทดสอบภาวะเสถียร และเราสามารถเชื่อมั่นได้ว่าวัคซีนจะมีค่าเสถียรมากขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นการทดสอบในระยะยาว" นายเฮปเบิร์นกล่าว
-- นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐ กล่าวว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) จะเร่งให้การอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์สำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน
บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94%
-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า เขารู้สึกสบายดี และจะบริหารประเทศผ่านทางแอปพลิเคชั่น Zoom
ทั้งนี้ นายจอห์นสันกำลังอยู่ในระหว่างการกักตัวเอง หลังจากที่เขาสัมผัสกับสมาชิกรัฐสภาอังกฤษที่มีผลการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก โดยนายจอห์นสันจำเป็นต้องเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลง ก่อนที่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษในการแยกตัวออกจาก EU จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อังกฤษต้องแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
-- ตัวแทนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เตรียมจัดการประชุมในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาแนวทางพยุงตลาดน้ำมันในปีหน้า ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อราคาและอุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ของโอเปกพลัสจะจัดการประชุมในวันนี้ และจะตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของประเทศสมาชิกด้วย ขณะที่คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) จะจัดการประชุมในวันพรุ่งนี้
ส่วนการประชุมของโอเปกพลัสเต็มคณะจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม ขณะที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.จากสมาคมอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยแห่งออสเตรเลีย (HIA), อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค., อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค., สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)