นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า การที่กระทรวงการคลังสหรัฐตัดสินใจไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของเฟดสำหรับการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลยังคงมีเงินทุนอีกมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"นี่เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง และสอดคล้องกับกฎหมาย โดยเรากำลังทำตามเจตนารมณ์ของสภาคองเกรส" นายมนูชินกล่าว
นายมนูชินยังเปิดเผยว่า รัฐบาลยังคงมีเงินทุน 8 แสนล้านดอลลาร์ที่สามารถใช้ได้ หากมีความจำเป็น
รัฐมนตรีคลังสหรัฐยังยืนยันว่า เขาและนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวว่า โครงการเงินกู้ของเฟดเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ จะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค. และจะไม่มีการต่ออายุโครงการดังกล่าว
นายมนูชินได้ส่งจดหมายถึงนายพาวเวล โดยระบุว่า เม็ดเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ที่จัดสรรให้กับกระทรวงการคลังภายใต้มาตรการ CARES Act เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น เงินส่วนใหญ่ดังกล่าวได้ถูกจัดสรรให้กับเฟดเพื่อใช้ในโครงการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และรัฐบาลท้องถิ่น โดยเฟดควรคืนเงินที่ไม่ได้ใช้ให้กับสภาคองเกรสเพื่อนำไปใช้ในด้านอื่นๆ ต่อไป
"ผมขอให้เฟดดำเนินการคืนเงินส่วนที่ไม่ได้ใช้ให้กับกระทรวงการคลัง" นายมนูชินระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายพาวเวล โดยปฏิเสธที่ต่ออายุโครงการดังกล่าวที่เฟดมองว่ามีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีสินเชื่อไหลเวียนไปยังทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างหนัก