หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนที่จะเสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ โดยหากการเสนอชื่อได้รับการรับรองจากวุฒิสภา นางเยลเลน วัย 74 ปี ก็จะกลายเป็นสุภาพสตรีคนแรกที่ได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีคลังของสหรัฐ
-- นางเอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (General Services Administration - GSA) ได้ส่งจดหมายถึงนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อแจ้งให้ทราบว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เปิดทางให้นายไบเดนสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ เพื่อให้นายไบเดนสามารถเข้าทำหน้าที่ในทำเนียบขาวได้อย่างราบรื่น
-- นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลในรัฐนิวยอร์กนั้น อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจนแตะหลัก 6,000 คนใน 3 สัปดาห์เมื่อประเมินจากแนวโน้มปัจจุบัน แม้ไม่รวมยอดที่คาดว่าจะทะยานขึ้นในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า โดยรัฐนิวยอร์กมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 122% ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
-- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 และคาดว่าเฟดจะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ใกล้ 0% ในปัจจุบันต่อไปจนถึงปี 2567 อย่างไรก็ตาม นายอีแวนส์เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อจะไม่แตะระดับ 2% จนถึงปลายปี 2565 หรือแม้แต่ปี 2566 โดยอาจต้องรอไปจนถึงปี 2567 แต่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ตกงานและยังหางานใหม่ไม่ได้ในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และสำหรับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากรายได้ภาษีที่ลดลง
-- สถาบันศึกษาไซเบอร์สเปซของจีนเปิดเผยรายงาน World Internet Development Report 2020 ระบุว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลกนั้น เศรษฐกิจดิจิทัลถูกมองว่า จะเป็นกลไกลใหม่สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
-- นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐได้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก แซงหน้านายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 520% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ซึ่งทำให้ความร่ำรวยของนายมัสก์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้
-- ราคาหุ้นบริษัทท็อป โกลฟ ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วงลง 7.5% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นมาเลเซียช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรัฐบาลมาเลเซียได้สั่งให้มีการทยอยปิดโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ หลังพบพนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 2,000 ราย
-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของบริษัทต่างๆ โดยกล่าวว่า "ขณะนี้มีความหวังที่แท้จริงเกิดขึ้นแล้วว่า วัคซีน และความพยายามด้านสาธารณสุขอื่นๆ ที่ผ่านการทดสอบและทดลองนั้น จะช่วยให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง"
-- รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมขึ้นสู่ระดับ 2 จากทั้งหมด 5 ระดับในเขตกรุงโซลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 ธ.ค.ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในกรุงโซล ซึ่งภายใต้ข้อกำหนดเว้นระยะห่างทางสังคมในระดับ 2 รัฐบาลจะจำกัดการดำเนินงานของสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และจำกัดการรวมตัวของประชาชน โดยสถานบันเทิง 5 ประเภทรวมถึง ไนท์คลับ ต้องระงับการทำธุรกิจ ขณะที่คาราโอเกะบาร์ต้องหยุดให้บริการหลัง 21.00 น.
-- หุ้นของเอเอ็นเอ โฮลดิ้งส์ (ANA) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ ร่วงลงกว่า 4% ในวันนี้ หลังมีรายงานข่าวว่าบริษัทเตรียมออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุนให้ได้ประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาที่สายการบินทั่วโลกต้องหาทางเอาตัวรอดจากวิกฤตอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งหยุดชะงักลงอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-- นายจอห์น บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทอโกด้า (Agoda) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชียจะฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าในประเทศฝั่งซีกโลกตะวันตก โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศต่างๆ ในเอเชีย พร้อมระบุว่า ทั่วโลกกำลังจับตาเอเชียอย่างใกล้ชิดว่าทำอย่างไรภูมิภาคแห่งนี้จึงสามารถฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจับตาโครงการเดินทางทางอากาศระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว (Air Travel Bubble) ระหว่างสิงคโปร์-ฮ่องกง โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะยิ่งสนับสนุนการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในเร็วๆ นี้
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 ของเยอรมนี ขยายตัว 8.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ขยายตัว 8.2% และแข็งแกร่งกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของวอลล์สตรีท เจอร์นัลคาดการณ์ว่า จะขยายตัว 8.2%