นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการเปิดตัวทีมนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐเดลาแวร์ในวันอังคารตามเวลาสหรัฐ โดยกล่าวว่า สหรัฐพร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นผู้นำบนเวทีโลกอีกครั้ง และให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐ โดยถ้อยแถลงของนายไบเดนถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เคยชูนโยบาย "America First"
นายไบเดนส่งสัญญาณว่า ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.แล้ว เขาจะนำสหรัฐออกจากนโยบายชาตินิยมเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นค่านิยมที่ปธน.ทรัมป์ผลักดันมาโดยตลอด จนเป็นเหตุให้สหรัฐต้องบาดหมางกับบรรดาชาติพันธมิตร โดยเฉพาะในยุโรป และสร้างปมขัดแย้งด้านการค้าระหว่างประเทศ
-- รัฐบาลอังกฤษประกาศลดจำนวนวันในการกักตัวผู้ที่เดินทางมายังประเทศอังกฤษลงเหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 14 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนธ.ค.เป็นต้นไป แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่เดินทางมายังอังกฤษนั้นจะต้องมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบหลังการกักตัวแล้ว 5 วัน
-- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า พัฒนาการทางเศรษฐกิจของจีนมีโอกาสที่จะกลับสู่ระดับที่เหมาะสมมากขึ้นในปีหน้า โดยระบุว่า เศรษฐกิจจะกลับมาดีดตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังประสบภาวะถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้
-- รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานดำเนินการอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบสภาพการทำงานและการอยู่อาศัยในโรงงานต่างๆ ของบริษัทท็อป โกลฟ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่สุดของโลก หลังพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหมู่คนงาน จนทำให้โรงงานของท็อป โกลฟกลายเป็นพื้นที่ที่มีการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียระบุว่า เฉพาะที่โรงงานและหอพักคนงานของท็อป โกลฟในเมืองเมรู พบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนจำนวนมากถึง 1,511 ราย จากยอดติดเชื้อโดยทั้งหมด 1,623 รายในรัฐสลังงอร์ในวันอังคารที่ผ่านมา หรือคิดเป็นอัตราส่วนสูงถึง 93.1% ของยอดติดเชื้อทั้งหมดในรัฐ
-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บิตคอยน์มีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 74,000 ดอลลาร์ในปีหน้า หลังจากพุ่งขึ้นทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาได้ดีที่สุดในปีนี้ โดยทะยานขึ้นกว่า 166% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่วนในเดือนนี้ราคาของบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นเกือบ 40% โดยบิตคอยน์ได้แรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินหรือฟินเทค ซึ่งรวมถึง PayPal และ Square ที่หันมาทำธุรกรรมบิตคอยน์
-- นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ภาวะกระทิงของราคาทองคำยังไม่สิ้นสุด โดยราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2564 แม้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 นั้น จะกระตุ้นให้นักลงทุนทยอยขายทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในขณะนี้ก็ตาม
-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลกรุงโตเกียววางแผนที่จะเรียกร้องให้บรรดาร้านอาหารที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดชั่วโมงการเปิดให้บริการลงเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้
-- รัฐบาลอินเดียประกาศแบนแอปพลิเคชันของจีนเพิ่มอีก 43 แอป รวมถึงแอป Aliexpress และแอป Taobao Live ของบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ส่งผลให้แอปมือถือของจีนที่ถูกอินเดียขึ้นบัญชีดำนั้นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 200 แอป
รัฐบาลอินเดียระบุว่า คำสั่งแบนในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายมองว่า การขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอินเดียต้องการลดพึ่งพาสินค้าของจีน และต้องการสกัดบรรดาบริษัทขนาดใหญ่ของจีนไม่ให้ขยายอิทธิพลในอินเดีย
-- RDIF ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัสเซียและสนับสนุนการผลิตวัคซีน Sputnik V ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เปิดเผยว่า รัสเซียจะผลิตวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่มีราคาถูกกว่าของบริษัทคู่แข่งจากสหรัฐและอังกฤษ และตั้งเป้าที่จะผลิตวัคซีนดังกล่าวถึง 1 พันล้านโดสในปีหน้า
-- ศูนย์ป้องกันสุขภาพ (CHP) ของฮ่องกง รายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 80 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน โดยเป็นผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น 69 ราย และผู้ป่วยที่ยังไม่ทราบต้นตออีก 10 ราย
นางโซเฟีย ชาน รัฐมนตรีอาหารและสุขภาพของฮ่องกงเปิดเผยว่า สถานบันเทิงต่างๆ ตั้งแต่บาร์ไปจนถึงห้องจัดเลี้ยงและไนท์คลับ จะปิดให้บริการเป็นเวลา 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ และจะจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงใดๆ ก็ตามไม่เกิน 40 คน
-- สถาบันโรเบิร์ต คอช (RKI) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเยอรมนีในการควบคุมโรคติดเชื้อเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 410 ราย ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตแตะ 14,771 ราย