ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 81.4 ในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 75.5 จากระดับ 76.9 ในเดือนพ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งจากการที่ผู้บริโภคที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากที่นายโจ ไบเดน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ดัชนีบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และคาดการณ์ในอนาคตต่างดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ สถานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล