ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในช่วงเช้านี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่สำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทคในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งข่าวผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ลงนามอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับชาวอเมริกันอย่างเป็นทางการ
-- สำนักงานอาหารและยา (FDA) ได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทคในกรณีฉุกเฉินแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยการอนุมัติของ FDA จะทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐสามารถเริ่มแจกจ่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ให้กับรัฐ, ดินแดน และเมืองใหญ่ทั่วประเทศรวม 64 แห่ง
ทางด้านนายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการ CDC ได้ลงนามอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทคให้กับชาวอเมริกันอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ นายเรดฟิลด์ยังได้ลงนามในหลักปฏิบัติด้านการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (Advisory Committee on Immunization Practices หรือ ACIP) เพื่อให้คำแนะนำในการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค สำหรับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป
-- นางเจซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศในวันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ได้ตกลงในหลักการเพื่ออนุญาตให้การเดินทางระหว่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลียเป็นไปแบบไม่ต้องกักตัว หรือ Travel Bubble โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า
นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์และออสเตรเลียยังต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆที่จำเป็นต่อการสรุปโครงการ Travel Bubble โดยทั้งสองฝ่ายตั้งใจว่าจะเริ่มกำหนดวันเปิดตัวโครงการในช่วงปีใหม่ ทันทีที่มีการสรุปรายละเอียดของโครงการดังกล่าว
-- โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังสหรัฐ และหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ถูกโจมตีทางไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างชาติ ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นฝีมือแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย
ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็ได้ยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าหน่วยงานที่ถูกโจมตีทางไซเบอร์นั้นคือหน่วยงานใด โดยทางกระทรวงได้ประสานงานกับสำนักงานรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ (CISA) และสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) แล้ว
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 4/2563 ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -10 จากระดับ -27 ในไตรมาส 3
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นในไตรมาส 4 นั้น ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวคาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ -14
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิต ซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น ดีดขึ้นสู่ระดับ -5 ในไตรมาส 4 จากระดับ -12 ในไตรมาส 3
-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้เห็นพ้องที่จะขยายเวลาในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้า หลังจากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้แม้ว่าจะเลยกำหนดเส้นตายในวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.แล้วก็ตาม
นายจอห์นสัน และนางฟอน เดอร์ เลเยน เปิดเผยในแถลงการณ์ร่วมกันว่า "แม้ว่าเราได้ทุ่มเทความพยายามมาเป็นเวลานานเกือบ 1 ปี และแม้ว่าจะเลยกำหนดเส้นตายมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เราก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ เราจึงเห็นสมควรว่าจะต้องขยายเวลาในการเจรจาออกไปอีกระยะหนึ่ง"
ทั้งนี้ หากอังกฤษ และ EU ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันที่ 1 ม.ค.2564 ก็จะทำให้อังกฤษสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้ากับ EU และทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการค้าภายใต้กฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO)
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยญี่ปุ่น และอียูเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม ขณะที่จีนเปิดเผยข้อมูลหลายรายการซึ่งได้แก่ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และอัตราว่างงานเดือนพ.ย. ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนธ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.