นางเจซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์ตั้งเป้าที่จะเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้คนทั้งประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ซึ่งนับเป็นโครงการฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นางอาร์เดิร์น กล่าวว่า รัฐบาลได้รับวัคซีนเพิ่มเติมอีก 2 วัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และโนวาแวกซ์ (Novavax) ซึ่งจะมีปริมาณเพียงพอสำหรับชาวนิวซีแลนด์ทั้ง 5 ล้านคน
นอกจากนี้ นางอาร์เดิร์น เสริมว่า หากได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โครงการฉีดวัคซีนจะเริ่มต้นฉีดกลุ่มพนักงานตามชายแดน และบุคลากรที่มีความจำเป็นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 แล้วจะขยายไปสู่ประชาชนทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 โดยการฉีดวัคซีนจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
นางอาร์เดิร์น ระบุว่า "นี่จะเป็นโครงการฉีดวัคซีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของนิวซีแลนด์" พร้อมเสริมว่า "ประเทศส่วนใหญ่น่าจะใช้เวลาทั้งปี 2564 และบางส่วนของปี 2565 กว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น เนื่องจากขนาดและความซับซ้อน รวมถึงกรอบเวลาของการผลิตและการจัดส่ง"
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ภายในชุมชน ทว่าพรมแดนของประเทศยังคงปิดอยู่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่สำคัญ วัคซีนจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดพรมแดนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกล่าวเตือนว่า การเริ่มโครงการฉีดวัคซีน "จะไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ แก่พรมแดนของเราในระยะแรก"