ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) โดยระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในขณะนี้ โดยเฟดเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเฟดเมื่อวานนี้ว่า นโยบายการคลังถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในเวลานี้ ในขณะที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับสวัสดิการว่างงานตามมาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้
-- คณะกรรมการดูแลพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประจำสภาคองเกรส (JCCIC) มีแผนที่จะจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยพิธีดังกล่าวจะมึขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. 2564 ที่อาคารรัฐสภา ซึ่งคณะกรรมการจะส่งบัตรเชิญให้สมาชิกสภาคองเกรสแต่ละคน และสมาชิกสภาคองเกรสจะมีแขกผู้ติดตามได้คนละ 1 คน เท่ากับว่าจะส่งบัตรเชิญให้ 1,070 คน
-- ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ปฏิเสธต่อการที่กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวหาว่า สวิตเซอร์แลนด์ทำการปั่นค่าเงิน ขณะเดียวกันธนาคารกลางเวียดนามก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เวียดนามไม่ได้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดองเป็นเครื่องมือในการสร้างข้อได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากเมื่อวานนี้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีเวียดนามและสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ปั่นค่าเงินเพื่อหวังผลทางการค้า
-- สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 ขยายตัวแข็งแกร่งเป็นประวัติการณ์ถึง 14% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส หลังจากที่หดตัวลง 11% ในไตรมาส 2 โดย GDP ไตรมาส 3 แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 12.9% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นด้านการเงินและการคลังขนานใหญ่ที่รัฐบาลนำมาใช้นั้น เป็นปัจจัยหนุนการใช้จ่ายผู้บริโภคให้ฟื้นตัวขึ้น
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) กักวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จำนวนหลายพันโดสในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแอละบามาในสัปดาห์นี้ หลังจากกระบวนการขนส่งที่ไม่ปกติทำให้อุณภูมิในการจัดเก็บวัคซีนเย็นเกินไปซึ่งไม่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิในการจัดเก็บวัคซีนลดลง
-- เว็บไซต์ข่าว Axios รายงานว่า รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์จะเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในวันศุกร์นี้ (18 ธ.ค.) พร้อมกับนางคาเรน ภริยาของรองปธน.เพนซ์ และนายเจอโรม อดัมส์ ศัลยแพทย์ใหญ่ของสหรัฐ โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาว เนื่องจากรองปธน.เพนซ์ต้องการให้สาธารณชนเห็นภาพขณะที่เขาฉีดวัคซีน เพื่อยืนยันถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน และสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวอเมริกัน
-- ทางการอิตาลีอนุมัติแผนระดับชาติเพื่อฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชน ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยกลุ่มประชากรที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูงสุด เช่น เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และผู้สูงอายุ แล้วจะขยายไปสู่ประชาชนทั่วไป โดยการฉีดวัคซีนจะไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่บังคับใดๆ
-- นางเจซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์ตั้งเป้าที่จะเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้คนทั้งประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ซึ่งนับเป็นโครงการฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยจะเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มพนักงานตามชายแดน และบุคลากรที่มีความจำเป็นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 และจะขยายไปสู่ประชาชนทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
-- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายหนึ่งของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในกรุงโตเกียวพุ่งทะลุ 800 รายเป็นครั้งแรกในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะตึงตัวของระบบการแพทย์ภายในประเทศ ขณะที่กรุงโตเกียวได้เพิ่มระดับการเตือนความพร้อมด้านการแพทย์สู่ระดับ "สีแดง" ซึ่งเป็นการเตือนขั้นสูงสุดใน 4 ระดับเป็นครั้งแรก ขณะที่โรงพยาบาลต่างๆ รับผู้ป่วยโควิดเข้ารักษาตัวจนเต็มเกือบทุกเตียงแล้ว
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 90,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงาน ลดลงแตะ 6.8% ขณะนักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 7%
-- ธนาคารกลางไต้หวันประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.125% โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมาซึ่งธนาคารกลางได้ปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เศรษฐกิจของไต้หวันที่พึ่งพาการส่งออกเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19