คณะกรรมการที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) มีมติอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์เป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่ FDA จะให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 20 ต่อ 0 อนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาเป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นการอนุมัติใช้วัคซีนครั้งที่สองในสหรัฐ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว FDA ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค เป็นกรณีฉุกเฉิน และเริ่มฉีดให้กับประชาชนเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คาดว่า FDA จะให้การอนุมัติวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาอย่างเป็นทางการในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮ ขานรับความหวังที่ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย
-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดย BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10%
นอกจากนี้ BoE ยังประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 74,635,515 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,657,606 ราย
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (17,394,314) รองลงมาคืออินเดีย (9,951,962), บราซิล (7,042,695), รัสเซีย (2,762,668) และฝรั่งเศส (2,409,062)
-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 7,354 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 643,508 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ขณะนี้ การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ลุกลามไปทั้ง 34 จังหวัดของอินโดนีเซีย
ส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 142 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 19,390 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
-- กระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาของเมียนมาแถลงว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 1,182 ราย ส่งผลให้ขณะนี้เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 113,082 ราย
นอกจากนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 31 ราย สู่ระดับ 2,377 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมียนมาได้พุ่งขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกเพียง 2 รายในวันที่ 23 มี.ค.
-- ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ระบุว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วยของนายมาครง
"ท่านประธานาธิบดีจะทำการกักตัว 7 วันตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ท่านจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป" แถลงการณ์ระบุ
-- ผู้นำของยุโรปหลายรายแห่เข้ากักตัว และทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากมีข่าวว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก
ทั้งนี้ นายฌอง กัสแต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน นายอันโตนิโอ คอสตา นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป รวมทั้งนายโฮเซ่ อังเกล กูร์เรีย เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ต่างก็ถูกกักตัว และเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีการพบปะกับนายมาครงในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นางบริจิตต์ ภรรยาของนายมาครง ก็จะถูกกักตัวเช่นกัน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 885,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 800,000 ราย จากระดับ 862,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.547 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.535 ล้านยูนิต จากระดับ 1.528 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย เวลา 10.00 น. ตามเวลาไทย โดยในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนต.ค.นั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนพิเศษ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0%
นอกจากนี้ BOJ จะเดินหน้าเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจากบรรดาสถาบันการเงินโดยไม่จำกัดจำนวน และเข้าซื้อกองทุน ETF รายปีในอัตรา 12 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
Conference Board จะมีการรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของสหรัฐ เวลา 22.00 น. ตามเวลาไทย