สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความกังวลต่อนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามเกี่ยวกับประเด็นยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับเวียดนาม พร้อมทั้งเรียกร้องให้เวียดนามดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อรับประกันว่า เวียดนามจะทำการค้าทวิภาคีที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย
เมื่อวันพุธที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีเวียดนามเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงินเพื่อหวังผลทางการค้า แต่ธนาคารกลางเวียดนามได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า นโยบายการเงินดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการส่งออกโดยการทำให้สกุลเงินของประเทศอ่อนค่าลง
ทำเนียบขาวระบุว่า ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ ปธน.ทรัมป์และนายฟุกต่างแสดงความยินดีซึ่งกันและกันในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 25 ปี ระหว่างสหรัฐและเวียดนาม พร้อมเห็นพ้องว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศนั้นแน่นแฟ้นกว่าที่เคยเป็น
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ทรัมป์แสดงความกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลการค้า และเรียกร้องให้นายฟุกดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อรับประกันว่าจะทำการค้าที่เป็นธรรมและให้ประโยชน์ทั้งกับสหรัฐและเวียดนาม
ทั้งนี้ ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมิ.ย. 2563 เวียดนามมียอดเกินดุลการค้าสินค้ากับสหรัฐแตะ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากเป็นอันดับ 4 ในบรรดาคู่ค้าของสหรัฐ และเพิ่มขึ้น 25% จากการยอดเกินดุล 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมิ.ย. 2562