คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีและอายัดทรัพย์สินของบริษัทเวอร์จิล แคปิตอล (Virgil Capital) และบรรดาบริษัทในเครือของเวอร์จิล แคปิตอล ในข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ เวอร์จิล ซิกมา ฟันด์ แอลพี (Virgil Sigma Fund LP) ซึ่งเป็นกองทุนการซื้อขายสกุลเงินคริปโตของเวอร์จิล แคปิตอล
คณะกรรมการ SEC ระบุว่า นายสเตฟาน คิน ชาวออสเตรเลียซึ่งมีถิ่นพำนักชั่วคราวในนิวยอร์ก และเป็นเจ้าของบริษัทเวอร์จิล แคปิตอลนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการฉ้อโกงดังกล่าว เนื่องจากนายคินและบริษัทของเขาได้กระทำการหลอกลวงนักลงทุนในกองทุน Sigma Fund อย่างน้อยตั้งแต่ปี 2561 ด้วยการให้ข้อมูลผิดๆ ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ สินทรัพย์ และสถานะทางการเงินของกองทุน
คณะกรรมการ SEC ยังระบุว่า นายคินได้หลอกลวงนักลงทุนให้หลงเชื่อว่า เงินของพวกเขาจะถูกนำไปใช้สำหรับการซื้อขายสกุลเงินคริปโตบนพื้นฐานของอัลกอริธึมที่ทางบริษัทเป็นเจ้าของเท่านั้น แต่นายคินและบริษัทในเครือของเวอร์จิลกลับนำเงินของนักลงทุนเหล่านั้นไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือนำไปใช้ในการลงทุนด้านอื่นที่มีความเสี่ยงสูงโดยไม่มีการเปิดเผย
ทั้งนี้ คณะกรรมการ SEC ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 นายคินและเวอร์จิล แคปิตอล ได้แจ้งกับนักลงทุนที่ต้องการจะถอนเงินคืนจากกองทุน Sigma Fund ว่า ผลประโยชน์ของพวกเขาจะถูกโอนไปยังกองทุนอื่นๆแทน ภายใต้การควบคุมของนายคิน แต่จะอยู่ในการบริหารและการดำเนินการโดยกองทุนอีกแห่งหนึ่งคือ VQR Multistrategy Fund LP แต่จริงๆแล้ว กลับไม่มีเงินโอนเข้าสู่กองทุนแห่งนี้ และไม่มีการโอนเงินคืนให้กับนักลงทุนที่ต้องการถอนเงินคืน ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการ SEC จึงเล็งเห็นว่า นายคินมีเจตนายักยอกเงินของนักลงทุนออกจากกองทุน VQR Fund และพยายามระดมการลงทุนใหม่ๆ เข้ามาใน Sigma Fund
คณะกรรมการ SEC ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2563 เพื่อดำเนินคดีกับนายคิน และบริษัทเวอร์จิล แคปิตอล รวมทั้งบรรดาบริษัทในเครือครั้งหมดในข้อหาละเมิดมาตราต่อต้านการฉ้อโกงของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ และให้มีบทลงโทษต่างๆ ในคดีแพ่ง