เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การที่รัฐบาลมีคำสั่งให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานใน
ฮ่องกงซึ่งเป็นตลาด
อสังหาริมทรัพย์ที่แพงที่สุดในโลก เนื่องจากบริษัทเอกชนและบรรดาพนักงานของบริษัทสามารถรับมือกับข้อจำกัดต่างๆ ในการบริหารจัดการสำนักงานได้
นายคัสสัน เหลียง หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาด
อสังหาริมทรัพย์เอเชียของ
เจพีมอร์แกนกล่าวว่า ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานใน
ฮ่องกงยังคงมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งแตกต่างกับกลุ่มประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ พร้อมระบุว่า
ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่จำเป็นต้องมีการติดต่อกันในสังคม ประกอบกับจำนวนที่พักอาศัยที่มีอยู่อย่างจำกัด มีเครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ และใช้เวลาในการเดินทางไม่มาก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สนับสนุนให้บริษัทเอกชนและพนักงานใน
ฮ่องกงสามารถเข้าทำงานในสำนักงานได้
"ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อกิจกรรมทางธุรกิจในฮ่องกง ซึ่งคุณไม่สามารถทำงานในลักษณะนี้ที่บ้านได้ เราเชื่อว่าฮ่องกงจะมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น และในขณะเดียวกัน พนักงานจะไม่ยอมให้นายจ้างเคลื่อนย้ายสถานที่ทำงานของพวกเขาออกจากบริษัทด้วย" นายเหลียงกล่าว
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ธุรกิจให้เช่าสำนักงานในฮ่องกงจะยังคงมีเสถียรภาพในปี 2564 และคาดว่าความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานจากบริษัทจีนในปีนี้จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตลาดการเช่าสำนักงานในฮ่องกงให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว ซึ่งจะทำให้บริษัทจีนเข้ามาขยายธุรกิจในฮ่องกงมากขึ้นเมื่อมีการเปิดพรมแดน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/กัลยาณี โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--