ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรม เนื่องจากคาดหวังว่า พรรคเดโมแครตจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐจอร์เจีย ซึ่งจะปูทางให้คณะบริหารของนายโจ ไบเดน สามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่และเพิ่มการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลงจากระดับนิวไฮในระหว่างวัน หลังมีรายงานว่ากลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐ ส่งผลให้สภาคองเกรสต้องระงับการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดนเป็นการชั่วคราว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,829.40 จุด พุ่งขึ้น 437.8 จุด หรือ +1.44%
-- เฟซบุ๊กและยูทูบสั่งลบวิดีโอคลิปของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากแพลตฟอร์ม โดยอ้างว่าคลิปดังกล่าวยุยงให้เกิดความรุนแรง หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน
กาย โรเซน รองประธานฝ่ายบูรณภาพของเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นมาตรการฉุกเฉินตามความจำเป็น เพราะคลิปวิดีโอของปธน.ทรัมป์ยุยงให้เกิดความรุนแรง
ฟาร์ชาด ชาดลู โฆษกของยูทูบเปิดเผยว่า วิดีโอดังกล่าวละเมิดนโยบายของยูทูบ แต่จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานอัปโหลดใหม่ได้ หากมีข้อความอธิบายเพิ่มเติม
-- ทวิตเตอร์ประกาศบล็อคบัญชี @realDonaldTrump ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง หลังจากปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความอย่างต่อเนื่องว่า เขาถูกโกงการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. 2563
ทวิตเตอร์ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทจะบล็อคบัญชีของปธน.ทรัมป์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ทันทีที่เขาลบข้อความทวีตที่สร้างความสงสัยให้กับสังคม และเตือนว่า หากปธน.ทรัมป์ยังคงละเมิดกฏระเบียบของบริษัท ทางทวิตเตอร์จะทำการบล็อคบัญชีของปธน.ทรัมป์เป็นการถาวร
-- เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐสามารถยึดคืนพื้นที่ในอาคารรัฐสภาได้สำเร็จแล้วในขณะนี้ ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงหลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน โดยรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดในอาคารรัฐสภา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายอารักขาอาคารรัฐสภายืนยันว่า หญิงคนหนึ่งที่ถูกยิงในอาคารรัฐสภานั้นขณะนี้เสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบวัตถุระเบิดอย่างน้อย 2 ลูกบนพื้นของอาคาร
-- นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เขามีความหวังว่าพรรคเดโมแครตจะกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย โดยจะสามารถคว้าทั้ง 2 ที่นั่งในรัฐดังกล่าว
นายไบเดนระบุว่า ขณะนี้มีแนวโน้มว่าผู้ลงคะแนนเสียงในรัฐจอร์เจียกำลังช่วยให้พรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 58.4 ในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัว
-- ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ออกแถลงการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ยืนยันว่า NYSE จะปลดหลักทรัพย์ของ 3 บริษัทสื่อสารรายใหญ่ของจีนออกจากตลาด หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ NYSE ที่ได้ตัดสินใจอนุมัติให้หลักทรัพย์ของบริษัททั้ง 3 ยังคงสามารถซื้อขายในตลาดต่อไป
ทั้งนี้ ท่าทีของ NYSE ได้สร้างความสับสนให้กับนักลงทุนในตลาด โดยเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา NYSE ได้ประกาศว่าจะถอดหลักทรัพย์ของบริษัทไชน่าเทเลคอม, ไชน่าโมบายล์ และไชน่ายูนิคอม ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ต่อมาในวันที่ 4 ม.ค. NYSE ได้เปลี่ยนใจยกเลิกแผนการถอดหลักทรัพย์ของทั้ง 3 บริษัท หลังจากที่ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างชาติ
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 123,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 88,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ADP ได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ย.สู่ระดับ 304,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 307,000 ตำแหน่ง
-- สำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ในสหภาพยุโรป (EU)
"คณะกรรมการยาของ EMA ได้ประเมินข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพ, ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าวแล้ว และมีมติเอกฉันท์เสนอให้คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการ" แถลงการณ์ของ EMA ระบุ
-- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลตั้งเป้าที่จะแจกจ่ายวัคซีนจำนวน 29.55 ล้านโดสให้แก่ประชาชนในช่วงไตรมาสแรกนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลจะกระจายวัคซีนจำนวน 5.8 ล้านโดสในเดือนม.ค., 10.45 ล้านโดสในเดือนก.พ. และ 13.3 ล้านโดสในเดือนมี.ค.
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดการเปิดเผยในวันนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย., จีนเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนธ.ค., อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.และยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. รวมถึงดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนพ.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย., เยอรมนีจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากฮาลิแฟกซ์, อียูจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย. และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.