World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 7, 2021 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาคองเกรสของสหรัฐประกาศรับรองคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งสำหรับนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 3 พ.ย.แล้ว หลังจากที่มีการรับรองคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งของรัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งทำให้นายไบเดนได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 270 เสียง ซึ่งเป็นขั้นต่ำสุดที่จะคว้าชัยชนะในการชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ ขณะที่ผลการนับคะแนนใกล้สิ้นสุดลงแล้ว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐให้คำมั่นในวันนี้ว่า จะมีการ "ถ่ายโอนอำนาจอย่างสงบเรียบร้อย" ให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากสภาคองเกรสรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.อย่างเป็นทางการแล้ว โดย ปธน.ทรัมป์ระบุในแถลงการณ์ที่โฆษกทำเนียบขาวโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า "แม้ผมไม่เห็นด้วยเลยกับผลการเลือกตั้ง และข้อเท็จจริงก็ยืนยันให้ผมได้ แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยในวันที่ 20 มกราคม"

-- นายราฟาเอล วอร์นอค และนายโจน ออสซอฟฟ์จากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ส่งผลให้พรรคเดโมแครตสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะช่วยให้คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ สามารถออกมาตรการต่างๆได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19

-- นางมูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตันได้ประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันออกไปอีก 15 วัน จนกว่าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน จะผ่านพ้นไป โดยก่อนหน้านี้นางบาวเซอร์ได้ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันพุธไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการล็อกดาวน์อาคารรัฐสภา และทำให้การนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งและกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดนต้องหยุดชะงักลง

-- เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงวอชิงตันเปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายหลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ก่อเหตุอุกอาจด้วยการบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของสหรัฐเพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลครั้งนี้รวมถึงผู้หญิง 1 คนที่ถูกตำรวจยิงในอาคารรัฐสภา ส่วนอีก 3 คนเสียชีวิตด้วยเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์

-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของทำเนียบขาวกำลังพิจารณาที่จะลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงนายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ นายแมทท์ พอททิงเกอร์ ผู้ช่วยของนายโอไบรอัน และนายคริส ลิดเดิล ผู้ช่วยประธานาธิบดีและรองหัวหน้าฝ่ายความร่วมมือด้านนโยบายของทำเนียบขาว หลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้ตัดสินใจลาออกแล้วนั้นได้แก่นางซาราห์ แมทธิวส์ รองโฆษกทำเนียบขาว และนางสเตฟานี กริสแฮม หัวหน้าคณะทำงานของนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ

-- สำนักข่าวรอยเตอร์ และหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะรวมบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง และบริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ของจีนในรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำในข้อหาที่เป็นบริษัทที่ถูกครอบครองและควบคุมโดยกองทัพจีน ซึ่งจะส่งผลให้หลักทรัพย์ของบริษัทจีนเหล่านี้ไม่สามารถทำการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐได้ อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา และมีแนวโน้มว่าอาจจะไม่สำเร็จ ในขณะที่หน่วยงานหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกำลังอภิปรายถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาด

-- นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวแล้วในวันนี้ พร้อมกับอนุมัติมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 ม.ค. - 7 ก.พ. จะขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และเรียกร้องให้ร้านอาหารและบาร์ งดให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลา 19.00 น. และปิดให้บริการในเวลา 20.00 น. ส่วนโรงยิม ห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิง จะต้องลดช่วงเวลาสำหรับการเปิดให้บริการ

-- นายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า ฟิลิปปินส์เตรียมสั่งห้ามชาวต่างชาติจากอีก 6 ประเทศ รวมถึงผู้ที่เคยอยู่ในประเทศเหล่านั้นภายในระยะเวลา 14 วันก่อนการเดินทางมายังฟิลิปปินส์ เดินทางเข้าประเทศ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป หลังจากที่ 6 ประเทศดังกล่าว ซึ่งได้แก่โปรตุเกส อินเดีย ฟินแลนด์ นอร์เวย์ จอร์แดน และบราซิล ตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่สามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว

-- ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐ (CDC) รายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) จากผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเกือบ 4,400 รายเมื่อนับถึงวันที่ 23 ธ.ค. ในจำนวนผู้เข้ารับวัคซีนโดสแรก 1,893,360 รายเมื่อนับถึงวันดังกล่าว โดยมี 21 ราย ยืนยันว่ามีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน

-- ผลสำรวจจาก Pulse Asia แสดงให้เห็นว่า ชาวฟิลิปปินส์เกือบครึ่งหนึ่งไม่ต้องการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เนื่องจากส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน โดยในจำนวนชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับการสำรวจทั้งหมด 2,400 รายนั้น มีเพียงไม่ถึง 1 ใน 3 ที่ยินดีจะฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ส่วน 21% ยังบอกไม่ได้ว่า ต้องการฉีดวัคซีนหรือไม่

-- ทางการจีนเริ่มประกาศล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนของมณฑลเหอเป่ยใกล้กรุงปักกิ่ง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในเมืองฉือเจียจวง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย และตั้งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งทางรถยนต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ