นายแพทคริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หรืออาจจะถึงขั้นหดตัวลงในไตรมาสแรกของปีนี้
"ผมคาดว่า เศรษฐกิจทั่วประเทศของสหรัฐในไตรมาส 4/2563 จะขยายตัวเล็กน้อย ก่อนที่จะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสแรกของปีนี้ หรืออาจจะเข้าสู่ภาวะติดลบ แต่ข่าวดีก็คือว่า ความอ่อนแอของเศรษฐกิจอาจจะเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้นๆ เนื่องจากมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะได้รับปัจจัยหนุนหลังจากมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชน " นายฮาร์เกอร์กล่าวในการประชุมทางไกลซึ่งจัดโดยวารสารฟิลาเดลเฟีย บิสิเนส
อย่างไรก็ดี นายฮาร์เกอร์กล่าวว่า นับจนถึงขณะนี้ อัตราการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนยังคงอยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง โดยมีประชาชนไม่ถึง 5 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนโดสแรก ซึ่งน้อยกว่า 2% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
นายฮาร์เกอร์ยังกล่าวด้วยว่า การที่สภาคองเกรสผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 วงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้ตามปกติอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2564
"ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อาจจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ไปจนถึงปี 2565 ก่อนที่จะชะลอตัวลงเล็กน้อยในปี 2566" นายฮาร์เกอร์คาดการณ์
ถ้อยแถลงของประธานเฟดฟิลาเดลเฟียมีขึ้นในช่วงเวลาที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปอย่างเชื่องช้า เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วประเทศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 21,857,616 ราย และมีผู้เสียชีวิต 369,990 ราย โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก