ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐซึ่งได้แก่โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์ และเจพีมอร์แกน เตรียมเพิกถอนหุ้นกู้อนุพันธ์ (Structured Product) ประมาณ 500 รายการในฮ่องกง โดยเป็นผลพวงจากการที่สหรัฐสั่งแบนการลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพจีน
ฮ่องกงเป็นตลาดหุ้นกู้อนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีหุ้นกู้อนุพันธ์กว่า 12,000 รายการ
รายงานข่าวระบุว่า หุ้นกู้อนุพันธ์ที่ธนาคาร 3 แห่งดังกล่าวจะเพิกถอนนั้น รวมถึงวอแรนต์ และ Callable Bull/bear Contract (CBBC) ที่อิงกับดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index และบริษัทไชน่า โมบายล์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนย่ำแย่ลงอย่างมากในช่วงการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และยังเป็นการเปิดทางให้สหรัฐสามารถตรวจสอบบริษัทต่างๆ ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของหรือครอบครองโดยกองทัพจีน หลังจากคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยบริษัทเหล่านี้รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยี่ส์ และหางโจว ฮิควิชัน ดิจิทัล เทคโนโลยี รวมทั้งบริษัทของรัฐบาลจีนอีกหลายแห่ง
ด้านตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ประกาศแผนปลดหลักทรัพย์ของ 3 บริษัทสื่อสารรายใหญ่ของจีนออกจากตลาด ได้แก่ บริษัทไชน่าเทเลคอม ไชน่าโมบายล์ และไชน่ายูนิคอม หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ NYSE ที่ได้ตัดสินใจอนุมัติให้หลักทรัพย์ของบริษัททั้ง 3 ยังคงสามารถซื้อขายในตลาดต่อไป
ส่วน MSCI และ FTSE Russell ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก ประกาศถอดหุ้นของบริษัทเหล่านี้ออกจากการคำนวณในดัชนีเช่นกัน หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศแบนบริษัททั้ง 3 ดังกล่าว