นายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐคาดว่า สภาผู้แทนฯจะเริ่มการพิจารณาเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในวันพุธนี้ หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปลุกระดมให้เกิดการจลาจลก่อนม็อบสนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปก่อเหตุรุนแรงในทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายโฮเยอร์เปิดเผยกับสมาชิกพรรคเดโมแครตว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเริ่มกระบวนการถอดถอนปธน.ทรัมป์ในวันพุธนี้ หากรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ไม่ตอบสนองต่อคำเรียกร้องที่จะพิจารณาใช้ญัตติที่ 25 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐที่จะปลดปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
-- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตจำนวน 3 รายได้ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในความผิดข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจล
ญัตติดังกล่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวเท็จเกี่ยวกับการที่เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเพราะมีการโกงการเลือกตั้ง และได้ปลุกระดมมวลชนเพื่อบุกเข้าไปยังสภาคองเกรสในวันพุธที่ผ่านมาเพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
-- สำนักงานศุลกากรและการปกป้องชายแดนของสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า จะเริ่มเก็บภาษีรอบใหม่กับชิ้นส่วนเครื่องบินและผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากฝรั่งเศสและเยอรมนีในเวลา 12.01 น.ตามเวลาไทยวันนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเรื่องการให้เงินอุดหนุนธุรกิจของโบอิ้งและแอร์บัส
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะกำหนดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องบินอีก 15% และจะเก็บภาษีไวน์บางชนิด 25%
-- สถาบันวิจัย Sentix ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนพุ่งขึ้นในเดือนม.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +1.3 จากระดับ -2.7 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.7
-- สำนักงานอาหารและยาแห่งอินโดนีเซีย (BPOM) ประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวก ไบโอเทค เป็นการฉุกเฉินในวันนี้ ก่อนที่อินโดนีเซียจะเริ่มการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในวันพุธนี้
BPOM ระบุว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของซิโนแวกได้มาตรฐานตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด หลังจากที่ซิโนแวคเสร็จสิ้นการทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 ในอินโดนีเซีย บราซิล และตุรกี ซึ่งแทบไม่ส่งผลข้างเคียงต่ออาสาสมัคร
-- สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) ออกคำเตือนวานนี้ว่า ผู้ที่ลงทุนในบิตคอยน์มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด
"FCA มีความตระหนักว่า บริษัทบางแห่งกำลังเสนอการลงทุนในรูปสกุลเงินคริปโต หรือปล่อยกู้ หรือให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโตที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งถ้าผู้บริโภคเข้าลงทุนในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็ควรเตรียมตัวที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด" FCA ระบุ
นอกจากนี้ FCA ยังเตือนว่า นักลงทุนควรระวังหากได้รับการติดต่อ และกดดันให้เข้าลงทุนอย่างรวดเร็ว หรือมีการให้สัญญาที่ฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง
-- บิตคอยน์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 33,000 ดอลลาร์ หลุดระดับ 1,000,000 บาทเมื่อคืนนี้ หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ 42,000 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ระบุว่า บิตคอยน์ได้รับผลกระทบจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์แข็งค่า
ณ เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทยเช้านี้ บิตคอยน์อยู่ที่ระดับ 35,664.40 ดอลลาร์ หรือราว 1,070,589.33 บาท
-- ผู้เชี่ยวชาญกำลังจับตาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ซึ่งทางบริษัทระบุว่าสามารถให้การป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วยการฉีดเพียงโดสเดียว
ก่อนหน้านี้ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค, แอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และโมเดอร์นา ล้วนต้องมีการฉีด 2 โดสเพื่อสร้างภูมิต้านทานต่อโควิด-19 ซึ่งการฉีด 2 โดสได้สร้างข้อจำกัดต่อรัฐบาลประเทศต่างๆในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ส่งผลให้บางประเทศพยายามยืดเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่ประชากรจำนวนมากที่สุด
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 90,768,716 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,944,711 ราย
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (22,917,334) รองลงมาคืออินเดีย (10,467,431), บราซิล (8,105,790), รัสเซีย (3,425,269), สหราชอาณาจักร (3,072,349), ฝรั่งเศส (2,783,256), ตุรกี (2,326,256), อิตาลี (2,276,491) และสเปน (2,050,360)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (383,275) ตามมาด้วยบราซิล (203,140), อินเดีย (151,198), เม็กซิโก (133,706) และสหราชอาณาจักร (81,431)
-- นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงวานนี้ว่า รัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์กรุงกัวลาลัมเปอร์ และอีก 5 รัฐ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ชาวมาเลเซียจะไม่สามารถเดินทางข้ามรัฐในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นายยัสซินระบุว่า 5 ภาคธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตจะยังคงสามารถดำเนินการต่อไป แต่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากเวสต์แพค ขณะที่ญี่ปุ่นเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. และทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนธ.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพ.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., สหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 14 ม.ค.)