หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารดอยซ์แบงก์จะไม่ทำธุรกรรมทางการเงินกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และบริษัทต่างๆ ของปธน.ทรัมป์อีกต่อไปในอนาคต หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนปธน.ทรัมป์ได้บุกเข้าไปก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมานั้น ดอยซ์แบงก์ถือเป็นธนาคารผู้ปล่อยกู้ที่สำคัญที่สุดของปธน.ทรัมป์ โดยขณะนี้บริษัททรัมป์ ออร์กาไนเซชั่น มีเงินกู้ค้างชำระอยู่ประมาณ 340 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปัจจุบันบุตรชายทั้งสองคนของปธน.ทรัมป์บริหารบริษัทแห่งนี้
อย่างไรก็ดี ทั้งโฆษกของดอยซ์แบงก์, บริษัททรัมป์ ออร์กาไนเซชั่น และทำเนียบขาว ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าวของนิวยอร์กไทม์ส
ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นางคริสเตียนา ไรลีย์ ผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการของดอยซ์แบงก์สาขาสหรัฐ ได้ออกมาประณามเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐสภาสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนางไรลีย์ได้โพสต์ข้อความบน LinkedIn ว่า "เราภูมิใจในรัฐธรรมนูญของเรา และเราขอยืนเคียงข้างผู้ที่ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชน และทำให้การถ่ายโอนอำนาจเกิดขึ้นอย่างสันติ" กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธที่แล้ว และผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐ ส่งผลให้ต้องมีการอพยพผู้คนออกจากอาคารรัฐสภา และยังทำให้สภาคองเกรสต้องสั่งระงับชั่วคราวกับการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ