บริษัทในอังกฤษเรียกร้องขอเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจากรัฐบาลอีก 7.6 พันล้านปอนด์ (1.03 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยระบุว่า พวกเขาไม่สามารถรอจนถึงเดือนมี.ค.เพื่อดูว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่จากการเปิดเผยงบประมาณของนายริชิ ซูแนค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ
สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) ระบุว่า การที่อังกฤษกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง และบริษัทต่างๆ ต้องปรับตัวกับยุคหลังอังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit) นั้น ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องทำการตัดสินใจครั้งใหญ่เกี่ยวกับการดำเนินงานและการลงทุน และจำเป็นต้องรู้ว่าจะมีการขยายเวลาของมาตรการเยียวยาออกไปอีกหรือไม่
"เราแค่ต้องการทำงานให้สำเร็จ เป็นเรื่องแปลกมากที่จะยุติการสนับสนุนในตอนนี้" โทนี แดนเคอร์ ผู้อำนวยการ CBI ระบุในแถลงการณ์
นายซูแนคได้ขยายเวลามาตรการสนับสนุนมาแล้วหลายครั้ง และได้เปิดเผยว่าต้องใช้เงิน 2.8 แสนล้านปอนด์ในระหว่างปีงบประมาณปัจจุบันเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณสูงเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม นายซูแนคยังคงเผชิญเสียงเรียกร้องให้ใช้เงินเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงจากสมาชิกสภา และบางส่วนมาจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายซูแนคเองที่ต้องการให้ขยายเวลาในการช่วยเหลือด้านสวัสดิการฉุกเฉิน
CBI ระบุว่า นายซูแนคควรจะขยายเวลามาตรการรักษาตำแหน่งงานออกไปจนถึงเดือนมิ.ย. จากเดิมซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนเม.ย. จากนั้นก็ตามด้วยการสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายให้มีงานทำในภาคส่วนที่ฟื้นตัวช้าอย่างเช่นภาคการบิน
นายซูแนคควรจะขยายเวลาในการผ่อนผันการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มของบริษัทต่างๆ ในช่วงต้นปี 2564 และยืดเวลาการยกเว้นภาษีธุรกิจสำหรับบริษัทที่ถูกบังคับให้ปิดตัวในระหว่างล็อกดาวน์ รวมถึงซัพพลายเออร์ของพวกเขาด้วย
"หลักการทั่วไปก็คือการสนับสนุนให้ธุรกิจยังคงอยู่ได้ควบคู่ไปกับข้อกำหนดต่างๆ และมาตรการเหล่านั้นจะต้องไม่ยุติลงอย่างกระทันหัน" นายแดนเคอร์กล่าว