นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งนำเสนอโดยนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มแผ่วลงจากการที่โรคโควิด-19 ยังระบาดไม่หยุด
นางเยลเลน แถลงต่อคณะกรรมการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐว่า "หากไม่ดำเนินการเพิ่มเติมแล้ว เราจะเผชิญกับการถดถอยที่นานกว่าและรุนแรงกว่า และเศรษฐกิจจะเสียหายในระยะยาว"
ว่าที่รมว.คลังสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสคิดการใหญ่ โดยเธอมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ว่านี้จะให้ประโยชน์มากกว่างบประมาณที่ต้องเสียไปเมื่อดูในระยะยาว
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐแทนนายสตีเวน มนูชิน หากเธอได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ขณะที่นายมนูชินจะก้าวลงจากตำแหน่งในวันพุธที่ 20 ม.ค.นี้
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา นายไบเดนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชื่อว่า "American Rescue Plan" วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, การเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์ โดยจะขยายโครงการช่วยเหลือดังกล่าวไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้