บิตคอยน์ดิ่งลง 10% หลุดระดับ 32,000 ดอลลาร์ เหลือเพียง 31,977 ดอลลาร์ในวันนี้ หรือราว 959,310 บาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 วัน หลังจากเคยพุ่งแตะ 42,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,260,000 บาทเมื่อวันที่ 8 ม.ค.
ล่าสุด ณ เวลา 18.06 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 2,419.95 ดอลลาร์ หรือ 6.85% สู่ระดับ 32,882.14 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ Coinbase
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การทรุดตัวของบิตคอยน์เกิดขึ้นหลังจากที่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งรัฐบาลใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของนายไบเดนอาจออกมาตรการควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์
ก่อนหน้านี้ สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) ออกคำเตือนว่า ผู้ที่ลงทุนในบิตคอยน์มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด
"FCA มีความตระหนักว่า บริษัทบางแห่งกำลังเสนอการลงทุนในรูปสกุลเงินคริปโต หรือปล่อยกู้ หรือให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโตที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งถ้าผู้บริโภคเข้าลงทุนในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็ควรเตรียมตัวที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด" FCA ระบุ
นอกจากนี้ FCA ยังเตือนว่า นักลงทุนควรระวังหากได้รับการติดต่อ และกดดันให้เข้าลงทุนอย่างรวดเร็ว หรือมีการให้สัญญาที่ฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญพากันเตือนว่า การทะยานขึ้นของบิตคอยน์จะสะดุดลง หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้
แบงก์ ออฟ อเมริกา ออกรายงานเตือนว่า บิตคอยน์ถือเป็น "มารดาของฟองสบู่ทั้งปวง"
ส่วนนายนูเรล รูบินี หรือ ดร.ดูม ผู้ที่เคยทำนายวิกฤติซับไพร์มได้อย่างถูกต้องเมื่อทศวรรษที่แล้ว และนายปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐ มองว่า บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เก็งกำไรที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง และฟองสบู่บิตคอยน์จะระเบิดออกในที่สุด
ด้านนายแมทท์ มาลีย์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทมิลเลอร์ ทาบัค กล่าวว่า บิตคอยน์อาจดิ่งลง 25-30% ในช่วงต้นปีนี้
นายมาลีย์กล่าวว่า ปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่า บิตคอยน์ได้เข้าสู่ภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไป และเริ่มมีภาวะฟองสบู่ ส่งผลให้บิทคอยน์จะเผชิญกับการปรับฐาน
นายมาลีย์กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2559 บิตคอยน์ได้ดิ่งลง 20% ถึง 10 ครั้ง, ร่วงลง 30% จำนวน 7 ครั้ง และ 48% จำนวน 4 ครั้ง ซึ่งนักลงทุนไม่ควรประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับการปรับตัวที่ผันผวนของบิตคอยน์