ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเร่งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน หลังจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
-- บิตคอยน์ร่วงหลุดจากระดับ 30,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วันนับตั้งแต่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ณ เวลา 08.14 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ บิตคอยน์ร่วงลง 1,948 ดอลาร์ หรือ 6.23% แตะที่ 29,327 ดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การทรุดตัวของบิตคอยน์เกิดขึ้นหลังจากที่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของนายไบเดนอาจจะออกมาตรการควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิทคอยน์
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ ECB ยังคงจับตาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ECB ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบัน หรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว จนกว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ ECB ซึ่งระบุให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกิน 2%"
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 97,402,008 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,085,716 ราย
-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 11,703 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 951,651 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า WHO มีความยินดีที่สหรัฐตัดสินใจกลับเข้าเป็นสมาชิกของ WHO
"WHO ถือเป็นครอบครัวของชาติต่างๆ และเรารู้สึกยินดีที่สหรัฐยังคงอยู่ในครอบครัวนี้" นายแพทย์ทีโดรสกล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีในวันนี้ เพื่อให้สหรัฐกลับเข้าเป็นสมาชิก WHO อีกครั้งหนึ่ง โดยคำสั่งดังกล่าวจะยุติกระบวนการถอนตัวที่อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้เริ่มดำเนินการเมื่อปีที่แล้ว
-- นายหยิน เหว่ยตง ประธานบริษัทซิโนแวก ไบโอเทค กล่าวว่า ทางบริษัทกำลังเร่งผลิต CoronaVac ซึ่งเป็นวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อรองรับความต้องการจากประเทศต่างๆทั่วโลก
"ซิโนแวกได้รับคำสั่งซื้อวัคซีนจากบราซิล อินโดนีเซีย ตุรกี ชิลี และอีกหลายประเทศ ซึ่งเรากำลังใช้ความพยายามเพิ่มกำลังการผลิต" นายหยินกล่าว
ประธานบริษัทซิโนแวกระบุว่า ทางบริษัทได้สร้างสายการผลิตแห่งที่สองแล้ว โดยจะเริ่มการผลิตในเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถผลิตวัคซีนได้ถึง 1,000 ล้านโดสต่อปี
-- รัฐบาลหลายประเทศในยุโรปแสดงความไม่พอใจต่อบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ขณะที่บางประเทศ เช่น อิตาลี ขู่ดำเนินการทางกฎหมาย หลังจากที่ทางบริษัทได้ลดการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ในขณะนี้
-- บริษัทแอร์เอเชีย กรุ๊ป ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ระบุว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) จำนวน 20% ของหุ้นทั้งหมดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งต่อสถานะการเงินของบริษัท
ทั้งนี้ แอร์เอเชียคาดว่าจะสามารถระดมเงินทุน 454.5 ล้านริงกิต (112.84 ล้านดอลลาร์) จากการเสนอขายหุ้นจำนวน 668.4 ล้านหุ้น
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 900,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 925,000 ราย จากระดับ 926,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วต่ำกว่าระดับ 6.9 ล้านรายที่มีการรายงานในช่วงปลายเดือนมี.ค.2563 แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 665,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงปี 2550-2552 ซึ่งขณะนั้นเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 5.8% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.669 ล้านยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.560 ล้านยูนิต จากระดับ 1.547 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 5.2% ในเดือนธ.ค.
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ มาร์กิตเตรียมรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค. ของฝรั่งเศส เวลา 15.15 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยของเยอรมนี เวลา 15.30 น. และยูโรโซน เวลา 16.00 น.
จากนั้นมาร์กิต/ซีไอพีเอสจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค. ของอังกฤษ เวลา 16.30 น.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น มาร์กิตจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค. เวลา 21.45 น.
ต่อมาจะมีการรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. เวลา 22.00 น. และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เวลา 23.00 น.