บิตคอยน์ทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่เคยพุ่งแตะ 42,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 8 ม.ค.
ล่าสุด ณ เวลา 22.24 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 2,549.64 ดอลลาร์ หรือ 7.88% สู่ระดับ 29,768.75 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ Coinbase
การดิ่งลงของบิตคอยยน์มีสาเหตุจากความวิตกเกี่ยวกับการที่ทางการสหรัฐและยุโรปอาจเข้าคุมเข้มกฎระเบียบการซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินคริปโต
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การทรุดตัวของบิตคอยน์เกิดขึ้นหลังจากที่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของนายไบเดนอาจออกมาตรการควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์
ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ กล่าวว่า สกุลเงินคริปโตมีการใช้ในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย และรัฐบาลจะต้องพิจารณาออกแนวทางในการควบคุมการใช้สกุลเงินดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ถูกใช้เพื่อการฟอกเงิน
ส่วนนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เรียกร้องให้หน่วยงานทั่วโลกออกกฎระเบียบควบคุมบิตคอยน์ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่จะต้องอุดช่องโหว่จากการที่มีผู้ใช้บิตคอยน์ในการฟอกเงิน และทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) ออกคำเตือนว่า ผู้ที่ลงทุนในบิตคอยน์มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด
"FCA มีความตระหนักว่า บริษัทบางแห่งกำลังเสนอการลงทุนในรูปสกุลเงินคริปโต หรือปล่อยกู้ หรือให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโตที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งถ้าผู้บริโภคเข้าลงทุนในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็ควรเตรียมตัวที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด" FCA ระบุ
นอกจากนี้ FCA ยังเตือนว่า นักลงทุนควรระวังหากได้รับการติดต่อ และกดดันให้เข้าลงทุนอย่างรวดเร็ว หรือมีการให้สัญญาที่ฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญพากันเตือนว่า การทะยานขึ้นของบิตคอยน์จะสะดุดลง หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้
แบงก์ ออฟ อเมริกา ออกรายงานเตือนว่า บิตคอยน์ถือเป็น "มารดาของฟองสบู่ทั้งปวง"
ส่วนนายนูเรล รูบินี หรือ ดร.ดูม ผู้ที่เคยทำนายวิกฤติซับไพร์มได้อย่างถูกต้องเมื่อทศวรรษที่แล้ว และนายปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐ มองว่า บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เก็งกำไรที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง และฟองสบู่บิตคอยน์จะระเบิดออกในที่สุด
ด้านนายแมทท์ มาลีย์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทมิลเลอร์ ทาบัค กล่าวว่า บิตคอยน์อาจดิ่งลง 25-30% ในช่วงต้นปีนี้
นายมาลีย์กล่าวว่า ปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่า บิตคอยน์ได้เข้าสู่ภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไป และเริ่มมีภาวะฟองสบู่ ส่งผลให้บิทคอยน์จะเผชิญกับการปรับฐาน
นายมาลีย์กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2559 บิตคอยน์ได้ดิ่งลง 20% ถึง 10 ครั้ง, ร่วงลง 30% จำนวน 7 ครั้ง และ 48% จำนวน 4 ครั้ง ซึ่งนักลงทุนไม่ควรประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับการปรับตัวที่ผันผวนของบิตคอยน์