เทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2563 ที่ระดับ 270 ล้านดอลลาร์ หรือ 24 เซนต์/หุ้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 105 ล้านดอลลาร์ หรือ 11 เซนต์/หุ้น
ส่วนรายได้ในไตรมาส 4/2563 พุ่งขึ้น 46% แตะระดับ 1.074 หมื่นล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 7.38 พันล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากยอดส่งมอบรถยนต์ที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของเทสลายังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/2563 จะอยู่ที่ 1.02 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้จะอยู่ที่ 1.047 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีที่ผลประกอบการของเทสลาออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์
ราคาหุ้นเทสลาร่วงลงกว่า 7% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่เทสลาไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2564
ทางด้านนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลภายหลังการเปิดเผยผลประกอบการว่า "ปี 2564 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับเทสลา โดยบริษัทจะมีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อเร่งการผลิต ดังนั้นผมจึงรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และผมรอคอยที่จะทำให้มันเกิดขึ้น"
นอกจากนี้ นายมัสก์กล่าวว่า เขาคาดว่าจะยังคงทำหน้าที่ซีอีโอของเทสลาไปอีกหลายปีนับจากนี้