นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายหยาง เจียฉือ ผู้อำนวยการสำนักกิจการต่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้มีการพูดคุยกันนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่ง โดยระหว่างการพูดคุยนายบลินเคนได้เรียกร้องให้จีนออกมาประณามเหตุการณ์ก่อรัฐประหารในเมียนมา และเตือนรัฐบาลจีนว่า รัฐบาลสหรัฐจะร่วมงานกับชาติพันธมิตร เพื่อให้จีนรับผิดชอบกับความพยายามในการคุกคามเสถียรภาพของนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน ขณะที่นายหยางเรียกร้องให้สหรัฐเคารพอำนาจอธิปไตยของจีน
-- สำนักงานควบคุมกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของจีน (SAMR) เปิดเผยแนวทางใหม่เกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการผูกขาดตลาด โดยพุ่งเป้าไปที่บริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการที่ปัจจุบันใช้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งกฎระเบียบฉบับใหม่นี้จะส่งผลให้ร่างกฎหมายต่อต้านการผูกขาดที่มีการประกาศออกมาเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับคำจำกัดความของการผูกขาดซึ่งอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่จะถูกปราบปรามในครั้งนี้
-- บริษัทฮุนได มอเตอร์ของเกาหลีใต้เผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทยังไม่ได้เจรจากับบริษัทแอปเปิล อิงค์ของสหรัฐเกี่ยวกับการร่วมมือผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคำยืนยันดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นฮุนไดร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เช้านี้ และถือเป็นการสวนทางกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า ฮุนได มอเตอร์กำลังเจรจาขั้นต้นกับแอปเปิล โดยฮุนได และเกีย มอเตอร์ ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว หลังจากที่สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้รายงานก่อนหน้านี้ว่า แอปเปิลและฮุนไดได้เจรจากันแล้วว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2570 รวมถึงแผนการพัฒนาแบตเตอรีที่โรงงานในสหรัฐ ซึ่งจะดำเนินการโดยฮุนไดหรือเกีย มอเตอร์
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดเผยระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CBS News ว่า สหรัฐจะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน หากอิหร่านไม่หยุดการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมก่อน
ขณะที่สำนักข่าวเพรส ทีวี ของอิหร่านก็ออกมารายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายโมฮัมหมัด จาหวัด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านกำลังหมดความอดทนกับสัญญาณล่าสุดของรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐที่จะยังคงมาตรการคว่ำบาตรที่ผิดกฎหมายต่ออิหร่าน
-- นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อคลายความกังวลหลังทางการแอฟริกาใต้ประกาศแผนระงับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นการชั่วคราว เนื่องจากผลการทดสอบเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น ให้การป้องกันไม่มากนักในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่มีอาการไม่รุนแรงและอาการปานกลาง
-- กลุ่มผู้ต่อต้านการทำรัฐประหารในเมียนมาเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงและการหยุดงานมากขึ้นในวันนี้ หลังประชาชนนับหมื่นคนมารวมตัวกันบนท้องถนนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา นอกจากการประท้วงบนท้องถนนแล้ว มีความเคลื่อนไหวของอารยะขัดขืนเพิ่มมากขึ้นในเมียนมา โดยเริ่มจากแพทย์ ตลอดจนครู และเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วม
-- ออสเตรเลียเรียกร้องให้จีนปล่อยตัวนางเฉิง เล่ย ผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลียที่ถูกจับกุมตัวในจีนเป็นเวลานานถึง 6 เดือน หลังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าส่งมอบข้อมูลลับของรัฐบาลจีนให้แก่ต่างชาติ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและจีนเป็นไปอย่างตึงเครียดตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากที่ออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการมาตรการทางการค้าต่อออสเตรเลีย
-- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นเอาไว้ที่ A พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือเป็นลบ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง โดยฟิทช์ระบุว่า หนี้สินของรัฐบาลญี่ปุ่นพุ่งขึ้นแตะระดับ 254.8% ต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2563 จากระดับ 231.2% ในปี 2562 ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่มีภาระหนี้สินมากที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศอุตสาหกรรม