นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/2564 ของสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 11% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 10% พร้อมกับคาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐจะใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานที่ว่าตัวเลข GDP สหรัฐจะขยายตัวตามที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ไว้ อีกทั้งประเมินจากอัตราว่างงานที่ปรับตัวลงมากกว่าคาดในเดือนม.ค. และสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะเริ่มปรับลดการซื้อสินทรัพย์ในช่วงต้นปี 2565
การเปิดเผยรายงานคาดการณ์ของโกลด์แมน แซคส์มีขึ้นในขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังรอคอยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากพรรคเดโมแครตประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation
การที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติแนวทางการจัดทำงบประมาณดังกล่าว จะช่วยปูทางให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนสามารถผ่านสภาคองเกรสโดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน