ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐเปิดเผยว่า สภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ปีนี้ โดยคณะกรรมการดังกล่าวทำหน้าที่คล้ายกับคณะกรรมการที่ทำการตรวจสอบเหตุการณ์ 9/11 หรือเหตุการณ์ที่ผู้ก่อการร้ายขับเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดของสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ปี 2544
-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐเปิดเผยว่า สภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ปีนี้ โดยคณะกรรมการดังกล่าวทำหน้าที่คล้ายกับคณะกรรมการที่ทำการตรวจสอบเหตุการณ์ 9/11 หรือเหตุการณ์ที่ผู้ก่อการร้ายขับเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดของสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ปี 2544
นางเพโลซีกล่าวว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำการ "ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริง รวมทั้งสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ซึ่งมีประชาชนกลุ่มหนึ่งได้บุกเข้าไปโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐ โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการก่อการร้ายภายในประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการจะทำการตรวจสอบเรื่องการแทรกแซงการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีด้วย"
-- นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า EU จะเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อศึกษาการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 โดยมีเป้าหมายที่จะเตรียมวัคซีนรุ่นต่อไปซึ่งอาจเป็นสิ่งจำเป็นในอนาคต
นางฟอน เดอร์ เลเยนกล่าวว่า โครงการดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "HERA incubator" จะรวบรวมองค์กรด้านสาธารณสุขและห้องทดลองต่างๆ เข้ามาทำงานด้วยกัน และหน่วยงานเหล่านี้จะมีเงินทุนเป็นของตนเอง โดยโครงการ HERA incubator จะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.)
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศขึ้นบัญชีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยเปิดทางให้กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงวัคซีนราคาที่ค่อนข้างถูกได้
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ขณะนี้เราพร้อมที่จะแจกจ่ายวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี เรายังจำเป็นต้องเร่งการผลิต และเราขอเรียกร้องให้บรรดาผู้พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ยื่นเอกสารให้กับ WHO ได้ทำการทบทวน ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่พวกท่านยื่นต่อหน่วยงานฝ่ายกำกับดูแลในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง"
-- นายทาโร่ อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 ส่วนใหญ่ อาทิ ญี่ปุ่น, อังกฤษ, สหรัฐ และฝรั่งเศส เห็นพ้องกันว่า ในขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะถอนมาตรการสนับสนุนด้านการคลังเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายอาโสะกล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า "ประเด็นสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การเปลี่ยนจากนโยบายรับมือภาวะวิกฤตไปเป็นการฟื้นฟูด้านการคลังจะเริ่มขึ้นเมื่อใด และการดำเนินการดังกล่าวจะต้องอาศัยการประสานงานร่วมกัน"
-- องค์การการค้าโลก (WTO) แถลงว่า สมาชิกทั้ง 164 ประเทศได้มีมติแต่งตั้งนางเอ็นโกซี โอคอนโจ-ไอวีลา อดีตรัฐมนตรีคลังไนจีเรีย เป็นผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลกคนใหม่
การแต่งตั้งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐได้ยกเลิกการคัดค้านนางโอคอนโจ-ไอวีลาจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เธอกลายมาเป็นสตรีและชาวแอฟริกันคนแรกที่ได้เป็นผู้อำนวยการ WTO ในประวัติศาสตร์รอบ 25 ปี
ทั้งนี้ ตำแหน่งผอ. WTO ได้ว่างลงเมื่อนายโรเบอร์โต อาเซอเวอโด ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาก่อนครบกำหนดวาระการดำรงแหน่งล่วงหน้า 1 ปี
-- กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ที่มีต้นทางจากอังกฤษเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศจำนวน 3 ราย
รายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 รายนั้น เป็นผู้ที่เดินทางมาจากอินเดีย 2 ราย และจีน 1 ราย โดยทั้งหมดถูกตรวจพบขณะอยู่ในกระบวนการกักตัว และได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว
-- คลาลิท (Clalit) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลเปิดเผยผลการวิจัยศึกษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค โดยพบว่า ผู้ป่วยจำนวน 600,000 คนที่ได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส มีอาการป่วยลดลงถึง 94%
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวได้จากการทดลองวัคซีนกับผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 1.2 ล้านคน โดยแบ่งเป็นกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว 600,000 คน และกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 600,000 คน โดยการทดลองครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในอิสราเอล
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม ขณะที่อียูมีกำหนดเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2) และเยอรมนีดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.พ.จากสถาบัน ZEW ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.พ.จากเฟดนิวยอร์ก
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนม.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. และสหรัฐเปิดเผย ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.พ.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม (เช้าวันที่ 18 ก.พ.)