ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ เป็นประธานในการทำทำพิธีจุดเทียนที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ เพื่อไว้อาลัยให้กับชาวอเมริกันจำนวนมากกว่า 5 แสนคนแล้วที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19
นายไบเดนกล่าวแถลงทั่วประเทศผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า "ชาวอมริกันเสียชีวิตจากโรคระบาดในรอบ 1 ปีมากกว่าในสงครามโลกครั้งที่ 1, ครั้งที่ 2 และสงครามเวียดนามรวมกัน และยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก"
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประเทศ 92 แห่งทั่วโลกฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้วรวมกันมากกว่า 209 ล้านโดส ซึ่งเป็นการรณรงค์ฉีดวัคซีนครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีอัตราการฉีดวัคซีนราว 6.24 ล้านโดสต่อวัน
ส่วนในสหรัฐนั้น ชาวอเมริกันที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด โดยมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว 64.2 ล้านโดส โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเฉลี่ย 1.37 ล้านโดสต่อวัน
-- กระทรวงการคลังสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อวานนี้สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศซึ่งสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรนายพลสองคนของเมียนมา เนื่องจากการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศได้สั่งดำเนินการคว่ำบาตรพลโทโม มยินต์ ตัน และพลเอกเมือง เมือง คยอว์ของกองทัพเมียนมา
-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวเตือนนักลงทุนเมื่อวานนี้เกี่ยวกับความเสี่ยงในการถือครองบิตคอยน์
"ดิฉันไม่คิดว่าบิตคอยน์จะถูกใช้เป็นกลไกในการทำธุรกรรมในวงกว้าง และดิฉันวิตกเกี่ยวกับการที่บิตคอยน์มักถูกใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย" นางเยลเลนกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการ "ขุด" บิตคอยน์ ซึ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวนมากในการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก
-- บิตคอยน์ดิ่งกว่า 17% เมื่อวานนี้ หลุดระดับ 50,000 ดอลลาร์ หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ กล่าวว่า ราคาของบิตคอยน์อยู่ในระดับที่สูงเกินไปในขณะนี้
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 58,354 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,750,000 บาทเมื่อวานนี้ หลังจากมีมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 21.17 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 9,807 ดอลลาร์ หรือ 17.25% สู่ระดับ 47,023 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันอังคาร และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ
ที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนก.พ. และอีกครั้ง ในเดือนมิ.ย.หรือก.ค.
-- สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ให้การอนุมัติร่างกฎหมายในการตั้งกองทุนวงเงิน 500 ล้านเปโซ (10.3 ล้านดอลลาร์) หรือราว 300 ล้านบาท เพื่อชดเชยชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19
ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับเงินชดเชยดังกล่าว ได้แก่ ผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จนถึงแก่ชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร หรือต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวจะต้องยื่นเรื่องขอรับเงินชดเชยภายในเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ที่ได้รับการฉีดวัคซีน
-- นายโทนี เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์เอเชีย กรุ๊ป เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทคาดการณ์ว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแผนการระดมทุนภายในสิ้นเดือนมี.ค. โดยแอร์เอเชียกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุมัติเงินกู้ที่ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาลภายในเดือนหน้า
"ขณะนี้ เรามีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการระดมทุนในไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์" นายเฟอร์นันเดสกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการระดมทุน 2,500 ล้านริงกิต (618.51 ล้านดอลลาร์) จากเงินกู้และจากนักลงทุน ขณะที่นายเฟอร์นันเดสคาดการณ์ว่า แอร์เอเชียจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ และจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายในเวลา 2 ปี
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ., จีนเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค., อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.พ., เยอรมนีจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563 และสหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)