นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวอย่างน้อย 5% ปีนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายการคลังและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ประธานเฟดดัลลัสเปิดเผยเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) ว่า การฉีดวัคซีนจะทำให้ชาวอเมริกันสามารถเริ่มกลับมาทำกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจได้ และคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้
นอกจากนี้ ประธานเฟดดัลลัสยังคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะลดลงเหลือไม่ถึง 4% ในปีหน้า จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 6.3%
ในเรื่องเงินเฟ้อนั้น นายแคปแลนคาดว่าเงินจะเฟ้อสูงขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆ จากการขาดแคลนชิปและไม้แปรรูป ส่วนในระยะยาวต้องจับตาดูกันต่อไปว่า กระแสโลกาภิวัตน์หรือเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยกดดันราคาในระดับที่มากพอที่จะสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจากการที่ตลาดแรงงานตึงตัวได้หรือไม่
ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้เริ่มปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้แล้ว โดยขานรับความเป็นไปได้ที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะประกาศตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งต่อไปในการประชุมนโยบายในเดือนหน้า