สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กำลังการผลิตทั่วโลกของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น ลดลง 4.51% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังการขาดแคลนชิปอย่างรุนแรงส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องปรับลดกำลังการผลิต
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น 7 ราย ผลิตรถยนต์รวมกัน 2.12 ล้านคันเมื่อเดือนม.ค. โดยลดลงเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.ที่พุ่งขึ้นถึง 24%
อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนชิปนับตั้งแต่ปลายปี 2563 และการที่คณะทำงานสหรัฐชุดที่แล้วคว่ำบาตรบริษัทชิปจีนก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา การผลิตรถยนต์ทั่วโลกของฮอนด้าและซูบารุลดลง 8.8% และ 29.2% ตามลำดับ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์
ในทางกลับกัน การผลิตรถยนต์ทั่วโลกของนิสสันในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี
ฮอนด้าและนิสสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 และ 3 ของญี่ปุ่น เคยประกาศไว้ว่า ยอดขายรถยนต์รวมจะน้อยลง 250,000 คันในปีงบการเงินปัจจุบัน
ในส่วนของซูซูกิ มาสด้า และมิตซูบิชิ ต่างมีกำลังการผลิตทั่วโลกลดลงในเดือนม.ค. แต่เสริมว่า บริษัทยังไม่เห็นผลกระทบของการขาดแคลนชิปต่อการผลิต
ส่วนโตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเคยประกาศเมื่อต้นเดือนว่าบริษัทมีชิปเก็บไว้เพียงพอสำหรับการผลิต 4 เดือน มีกำลังการผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.9% เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด 7 รายของญี่ปุ่นมียอดขายรถยนต์ทั่วโลกรวมกัน 2.06 ล้านคันในเดือนม.ค. ลดลง 0.98% เมื่อเทียบเป็นรายปี