ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,270.09 จุด ลดลง 121.43 จุด หรือ -0.39%
-- นางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติ (UN) ประจำเมียนมาเปิดเผยว่า มีผู้ประท้วงในเมียนมาเสียชีวิตแล้ว 38 รายในขณะนี้ หลังกองทัพเมียนมาได้เปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงเมื่อวานนี้ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาได้ก่อรัฐประหารและเข้ายึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทูตพิเศษ UN ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันเพิ่มแรงกดดันให้กองทัพเมียนมายุติการกวาดล้างผู้ชุมนุม โดยนอกจากจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว ขณะนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทหารยิงอย่างน้อย 30 ราย
-- บริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ แถลงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทได้ลบบัญชีของกองทัพไทยที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ซึ่งถือเป็นการดำเนินการปิดบัญชีเป็นครั้งแรกของเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กได้ลบ 77 บัญชี, 72 เพจ และ 18 กลุ่มออกจากเฟซบุ๊ก และลบ 18 บัญชีบนอินสตาแกรมที่เกี่ยวข้องกับกองทัพไทย ซึ่งมีเป้าหมายการใช้ปฏิบัติการไอโอไปยังจังหวัดทางภาคใต้ของไทย
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 21.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- แหล่งข่าวระบุว่า การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมจะมีมติคงกำลังการผลิตในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ที่ประชุมจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.
-- ตำรวจเมียนมายังคงใช้มาตรการที่รุนแรงจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้เพิ่มเป็น 18 ราย เท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ว่าหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง
ผู้นำมวลชนของเมียนมากล่าวว่า ตำรวจได้สลายการชุมนุมด้วยการเดินเข้าหากลุ่มผู้ประท้วงพร้อมกับยิงแก๊สน้ำตา และขว้างระเบิดแสง รวมทั้งยิงด้วยกระสุนจริง โดยไม่มีการฉีดน้ำแรงดันสูง และไม่มีการเตือนให้เลิกชุมนุม
-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 49,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 6.7%
-- เกิดเหตุระเบิดใกล้ศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเมืองโบเวนคาร์สเปลของเนเธอร์แลนด์เมื่อวานนี้ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 12.55 น.ตามเวลาไทย
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.พ.และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563, ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค., อียูจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.และอัตราว่างงานเดือนม.ค. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เยอรมนีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค., ฝรั่งเศสมีกำหนดเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค., อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ.จากฮาลิแฟกซ์ และสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และดุลการค้าเดือนม.ค.