สถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์ได้ประกาศเพิ่มการเตือนภัยภูเขาไฟตาอัล (Taal) ขึ้นสู่ระดับ 2 หลังจากเกิดแรงสั่นสะเทือน 28 ครั้งและเกิดแผ่นดินไหวความถี่ต่ำ 4 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยภูเขาไฟตาอัลอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ราว 65 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ทางสถาบันฯ ยังได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟหลัก และการเปลี่ยนรูปของพื้นดินด้วย
-- หอการค้าอเมริกันเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ธุรกิจอเมริกันในจีนมีการขยายตัวขึ้นในปีนี้ หลังจากโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผลกำไรในปี 2563 แม้จีนควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วก็ตาม
รายงานที่เปิดเผยในวันนี้บ่งชี้ว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 81% จาก 345 รายคาดว่า อุตสาหกรรมจะมีการขยายตัวในปีนี้ ขณะที่ 45% มองว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐดีขึ้น โดยพุ่งขึ้น 15% จากปีที่แล้ว
-- ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นสาเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต
"เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาหลักฐานเชื่อมโยงปฏิกริยาของผู้ที่ได้รับวัคซีน และการเสียชีวิตของพวกเขา" แถลงการณ์จากสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KDCA) ระบุ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของชาวเกาหลีใต้จำนวน 8 ราย หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า
-- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกได้เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนอิรักเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศที่มีความเสี่ยงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่พระองค์เข้ารับตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาในปี 2555
โป๊ปฟรานซิสนับเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่เดินทางเยือนอิรัก
ในการเสด็จเยือนอิรักนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการอิรักได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนหลายพันนายในการคุ้มครองและอารักขาโป๊ปฟรานซิส โดยอิรักเป็นดินแดนที่มักเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย และมีการยิงจรวดโจมตีในหลายเมือง
-- ทำเนียบประธานาธิบดีซีเรียออกแถลงการณ์ ระบุว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย และนางอาสมา ซึ่งเป็นภรรยา มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก หลังจากที่ทั้งสองมีอาการป่วยเล็กน้อยก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งประธานาธิบดีอัล-อัสซาดและภรรยา ยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรง และทั้งสองจะยังคงปฏิบัติภารกิจระหว่างที่ถูกกักตัวที่บ้านพัก
-- นายเดวิด เทปเปอร์ ผู้จัดการ Appaloosa Management ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของสหรัฐ กล่าวแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในขณะนี้ ขณะที่เขามองว่าแรงเทขายในตลาดพันธบัตรสหรัฐจนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นนั้น จะยุติลงในที่สุด
ที่ผ่านมา นักลงทุนมักให้ความสนใจต่อคำกล่าวของนายเทปเปอร์ และคำพูดของเขามักสามารถขับเคลื่อนตลาดหุ้น
นายเทปเปอร์ยังระบุว่า ความเสี่ยงในตลาดได้เบาบางลงแล้ว และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะสั้น
"ผมคิดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ปรับตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และจะมีเสถียรภาพากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้การซื้อหุ้นในขณะนี้มีความปลอดภัยมากขึ้น" นายเทปเปอร์กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC
-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีทรัพยากรที่เพียงพอในการผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
"นี่เป็นร่างกฎหมายที่จะช่วยเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเราคาดว่าเราจะมีทรัพยากรที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง" นางเยลเลนกล่าว
นางเยลเลนคาดการณ์ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะทำให้สหรัฐมีการจ้างงานเต็มศักยภาพกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในปีหน้า
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบตามกำหนดแล้ว สามารถพบปะกันเป็นกลุ่มย่อยในสถานที่ในร่มโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย และไม่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา จำเป็นต้องได้รับการฉีด 2 เข็ม แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) สามารถได้รับการฉีดเพียง 1 เข็ม
อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
-- โกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงานว่า อัตราการว่างงานในสหรัฐจะปรับตัวลงสู่ระดับ 4.1% หรือต่ำกว่านั้นภายในสิ้นปีนี้
"เหตุผลสำคัญที่เราคาดว่าการจ้างงานจะขยายตัวในปีนี้คือการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราการออมของชาวอเมริกันจะช่วยหนุนการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง" รายงานระบุ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าอัตราการว่างงานได้ลดลงสู่ระดับ 6.2% ในขณะนี้ จากระดับ 14.7% ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 แต่ชาวอเมริกันที่มีงานทำยังคงมีจำนวนน้อยกว่าปีที่แล้วกว่า 8 ล้านคน
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนม.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ทางด้านออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ขณะที่เยอรมนีเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค. และอียูเปิดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563 (ประมาณการครั้งที่ 3) ส่วนทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.พ.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากเวสต์แพค, จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และสหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)