ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) โดยระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในขณะนี้ โดยเฟดเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา
-- เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) แสดงความเชื่อมั่นว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียรุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์ "Taper Tantrum" ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
-- รายงานการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ขณะนี้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2564 จะขยายตัว 4.7% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากตัวเลขคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนก.ย. 2563 ที่ระดับ 4.3% เนื่องจากคาดว่าผู้บริโภคในสหรัฐน่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลังแผนดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คืบหน้าไปได้ด้วยดี ประกอบกับที่มีการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง
-- สำนักงานสถิตินิวซีแลนด์ (Stats NZ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของนิวซีแลนด์ หดตัวลง 1.0% ในไตรมาส 4 ของปี 2563 หลังจากปรับตัวขึ้น 13.9% ในไตรมาส 3/2563 โดยภาคอุตสาหกรรม 7 ใน 16 กลุ่มชะลอตัวลง ขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีกและที่พักบางส่วนยังคงได้รับผลกระทบจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับ 5.8% จากระดับ 6.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่สาม โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นทางการเงินและการคลัง ซึ่งช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทำให้การจ้างงานกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ แม้ค่าเงินรูเปียห์เผชิญกับแรงกดดันเนื่องจากมีเม็ดเงินทุนไหลออกนอกประเทศก็ตาม โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากธนาคารได้ใช้มาตรการสนับสนุนด้านการเงินในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-- วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า จีนเตรียมจัดการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในเดือนหน้า หากการเจรจาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกับจีนในแอลาสกาซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี-ศุกร์นี้ (18-19 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) เป็นไปด้วยดี
-- รัฐบาลเกาหลีประกาศยืนยันในวันนี้ว่าจะไม่ยอมเข้าร่วมเจรจากับสหรัฐ หากรัฐบาลสหรัฐยังไม่ยกเลิกนโยบายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีการใช้ "ลูกไม้กระจอกๆ" เพื่อถ่วงเวลา
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานข้อมูลประจำสัปดาห์เกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่กลับมาเพิ่มขึ้น หลังจากหลายประเทศประกาศว่า พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ภายในประเทศ โดยในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 10% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่ยอดผู้ติดเชื้อลดลงตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา
-- นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวเตือนว่าสหภาพยุโรป (EU) อาจจำกัดการส่งออกวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไปยังประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง พร้อมย้ำถึงความจำเป็นในการส่งออกวัคซีนในปริมาณที่เหมาะสม
-- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เสนอให้มีการออกใบอนุญาตเดินทางระบบดิจิทัล (Digital Green Certificate) ที่ครอบคลุมถึงข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19, ผลการตรวจเชื้อ และใบรับรองแพทย์หลังหายจากอาการป่วย เพื่อกลับมาเปิดสหภาพยุโรป (EU) อีกครั้งด้วยวิธีการที่ปลอดภัย, ยั่งยืน และคาดการณ์ได้
-- เว็บไซต์ของ "The New England Journal of Medicine" เผยแพร่ผลการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (RCT) กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AZD1222) พบว่า วัคซีนดังกล่าวใช้ไม่ได้ผลกับเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351)