นายเฮลจ์ เบอร์เกอร์ หัวหน้าฝ่ายกิจการประเทศจีนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า สกุลเงินดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะช่วยให้ขอบข่ายการบริการด้านการเงินครอบคลุมมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่า มีความเสี่ยงที่จะต้องจับตาด้วย
"สกุลเงินดิจิทัลช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการถือเงินสดและการโยกย้ายเงินสด และเรามองเห็นประโยชน์ในการใช้สกุลเงินดิจิทัลในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการคลังในจีนใช้ระบบอิเล็กทรอนิกเพื่อพุ่งเป้าสนับสนุนด้านการคลังให้กับกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะ" นายเบอร์เกอร์กล่าว
นอกจากนี้ นายเบอร์เกอร์กล่าวว่า "ความเสี่ยงที่สกุลเงินดิจิทัลจะมีผลกระทบต่อระบบการเงินระหว่างประเทศก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย หากสกุลเงินดิจิทัลทำให้การใช้เงินของประเทศหนึ่งมีความง่ายมากขึ้นในอีกประเทศหนึ่ง การจัดการเรื่องเงินที่จะใช้ทดแทนก็จะมีความซับซ้อน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของธนาคารกลางในการควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียน รวมทั้งสินเชื่อและเงินเฟ้อภายในประเทศด้วย"
ทั้งนี้ นายเบอร์เกอร์กล่าวทิ้งท้ายว่า ดูเหมือนว่าธนาคารกลางหลายแห่งกำลังทดสอบหรืออย่างน้อยก็กำลังพิจารณาเรื่องจากออกสกุลเงินดิจิทัลในเวอร์ชั่นของประเทศตนเอง ซึ่งจีนก็เป็นหนึ่งในประเทศรายใหญ่แห่งแรกๆ ที่พยายามผลักดันให้มีการทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัล