สื่อตุรกีรายงานว่า นายฟารุค ฟาตีห์ โอเซอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Thodex ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายสกุลเงินคริปโต ได้หลบหนีออกจากตุรกีไปยังอัลบาเนีย พร้อมกับเงินทุนของลูกค้าจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 62,000 ล้านบาท
เว็บไซต์ของ Thodex ระบุว่า ทางบริษัทประกาศปิดเว็บไซต์ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความผิดปกติในบัญชีของบริษัท
ทั้งนี้ Thodex มีบัญชีลูกค้าจำนวน 400,000 บัญชี
ทางการตุรกีได้ออกหมายจับระหว่างประเทศต่อนายโอเซอร์ ขณะที่ตำรวจได้รวบตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับนายโอเซอร์จำนวน 62 คนจาก 8 เมือง
นอกจากนี้ ลูกค้าจำนวนหลายพันรายของ Thodex ได้ยื่นฟ้องต่อทางบริษัท โดยระบุว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนในบัญชี
เหตุการณ์อื้อฉาวในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ธนาคารกลางตุรกีออกคำสั่งห้ามการใช้สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ในการซื้อขายสินค้าและบริการในประเทศ โดยระบุถึงความเสียหายและความเสี่ยง "ที่ไม่สามารถเยียวยาได้" จากการทำธุรกรรมดังกล่าว
แถลงการณ์ของธนาคารกลางตุรกีระบุว่า "สกุลเงินคริปโตมีความเสี่ยง เนื่องจากไม่ได้ถูกควบคุมภายใต้กฎระเบียบใดๆ หรือกลไกตรวจสอบใดๆ รวมทั้งไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารกลาง ดังนั้น ผู้ให้บริการชำระเงินจะไม่สามารถพัฒนารูปแบบธุรกิจที่จะทำให้มีการใช้สกุลเงินคริปโตทั้งทางตรงและทางอ้อมในการชำระค่าบริการ เนื่องจากการใช้สินทรัพย์ดังกล่าวในการชำระค่าบริการอาจสร้างความเสียหายที่ไม่สามารถเรียกคีนได้สำหรับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นต่อวิธีการและเครื่องมือในการชำระเงินในปัจจุบัน"
ทั้งนี้ ตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในตุรกีมีการขยายตัวอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าตลาดตามกระแสการพุ่งขึ้นของมูลค่าบิตคอยน์ในตลาดโลก โดยมูลค่าการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในตุรกีพุ่งแตะระดับ 2.18 แสนล้านลีราในช่วงต้นเดือนก.พ.-24 มี.ค. เทียบกับระดับเพียง 7 พันล้านลีราในช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว