โนมูระ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจและโบรกเกอร์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/2564 ที่ระดับ 1.554 แสนล้านเยน มากกว่ายอดขาดทุนในไตรมาส 1/2563 ซึ่งอยู่ที่ 3.448 หมื่นล้านเยน และเป็นยอดขาดทุนสุทธิรายไตรมาสมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551
สำหรับสาเหตุที่ทำให้โนมูระขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 1 ของปีนี้นั้น มาจากการผิดนัดชำระหนี้ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Archegos Capital Management โดยโนมูระได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวเป็นวงเงินสูงถึง 2.457 แสนล้านเยน หรือ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยอดขาดทุนของโนมูระที่เกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ของ Archegos นั้น มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสองรองจากเครดิตสวิสซึ่งอยู่ที่ 4.4 พันล้านฟรังก์สวิส (4.8 พันล้านดอลลาร์) ขณะที่ธนาคารรายอื่นๆ ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมอร์แกน สแตนลีย์ได้รับความเสียหายเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ และธนาคารยูบีเอสได้รับความเสียหาย 774 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ธนาคารหลายแห่งซึ่งรวมถึงโนมูระและเครดิตสวิสได้รับความเสียหายจากการที่กองทุน Archegos Capital Management ได้กู้เงินจากธนาคารต่างๆไปลงทุนในหุ้นและประสบกับภาวะขาดทุน ส่งผลให้ธนาคารเจ้าหนี้เรียกร้องให้ Archegos วางเงินประกันเพิ่ม แต่ทางบริษัทกลับผิดนัดชำระในการเพิ่มเงินประกันดังกล่าว จึงส่งผลให้ Archegos ต้องถูกบังคับขายหุ้นที่ถืออยู่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อธนาคารเจ้าหนี้หลายแห่ง โดยเครดิตสวิสนั้นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นมูลค่าถึง 4.4 พันล้านฟรังก์สวิส (4.8 พันล้านดอลลาร์)