บริษัทแอมะซอน (Amazon) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 15.79 ดอลลาร์ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพล Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ระดับเพียง 9.54 ดอลลาร์ ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1.0852 แสนล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 44% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.0447 แสนล้านดอลลาร์
แอมะซอนเป็นเพียงไม่กี่บริษัทที่ได้ประโยชน์อย่างมหาศาลจากการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด โดยเฉพาะผลประกอบการไตรมาส 1 ที่แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจของอเมซอนยังคงได้ปัจจัยหนุนจากโรคระบาดดังกล่าว
-- หน่วยงานกำกับดูแลของจีนประกาศใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้นกับ 13 บริษัทที่ทำธุรกิจด้านการเงินที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วซึ่งรวมถึงบริษัทเทนเซ็นต์และบริษัทไบต์แดนซ์ โดยเป็นมาตรการเดียวกับที่จีนได้ใช้ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมแอนท์ กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทฟินเทครายใหญ่ของนายแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา
-- บริษัททวิตเตอร์เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 16 เซนต์ ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 14 เซนต์ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 68 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับในไตรมาส 1/2563 ที่ขาดทุน 8.4 ล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1.04 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.03 พันล้านดอลลาร์
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 51.1 ลดลงจากระดับ 51.9 ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการอยู่ที่ระดับ 54.9 ลดลง 1.4% จากระดับ 56.3 ในเดือนมี.ค.
-- กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตำแหน่งงานว่างของญี่ปุ่นในปี 2563 ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 46 ปี ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานระบุว่า สัดส่วนตำแหน่งงานว่างต่อผู้สมัครงานในปี 2563 ลดลง 0.45 จุด แตะที่ 1.10 จุด ซึ่งเป็นการลดลงที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 โดยตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 110 อัตราสำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน ส่วนอัตราว่างงานเฉลี่ยในปี 2563 อยู่ที่ 2.9% เพิ่มขึ้น 0.6% จากปี 2562 นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกและมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552
-- รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศในวันนี้ว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะส่งเครื่องช่วยหายใจ 300 เครื่อง และเครื่องผลิตออกซิเจน 300 เครื่องให้กับอินเดีย ซึ่งกำลังต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงมากที่สุดในโลก ขณะที่การแพร่ระบาดขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่มีอัตราการแพร่เชื้อได้ง่าย
-- วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชุดแรกของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ส่งมาถึงญี่ปุ่นแล้วในวันนี้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมนำวัคซีนดังกล่าวไปฉีดตามศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ หลังจากที่วัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.นี้
-- นายฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวยุโรปที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีจำนวนมากกว่าประชากรที่ได้รับการยืนยันผลตรวจว่าติดโรคโควิด-19 แล้ว
นายคลูจระบุว่า ยุโรปมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ยืนยันผลแล้วอยู่ที่ 5.5% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ประชากร 7% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว โดยปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนในยุโรปแล้ว 215 ล้านโดส และราว 16% ของประชากรในประเทศสมาชิกของ WHO ประจำภูมิภาคยุโรปได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว
-- กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 386,452 ราย ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศขณะนี้พุ่งขึ้นเป็น 18,762,976 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3,498 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 208,330 ราย
-- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทอยู่ที่ 275 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นสัดส่วนของกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 3 เซนต์ ขณะที่แอสตร้าเซนเนก้ารายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาดีเกินคาด และนับเป็นครั้งแรกที่แอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยข้อมูลทางการเงินจากการจัดจำหน่ายวัคซีน
แอสตร้าเซนเนก้าระบุว่า รายได้จากวัคซีนนั้นรวมถึงการส่งออกวัคซีนไปทั่วโลกราว 68 ล้านโดส โดยยอดขายในยุโรปอยู่ที่ 224 ล้านดอลลาร์, ในตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ 43 ล้านดอลลาร์ และในพื้นที่อื่นๆ ในโลกอยู่ที่ 8 ล้านดอลลาร์
-- คณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของลาวแจ้งให้หน่วยงานระดับจังหวัดเร่งดำเนินการเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยทางการได้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ทุกจังหวัด แม้ว่าจังหวัดอัตตะปือ, ไชยสมบูรณ์ และหัวพัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ตาม
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีในไตรมาส 1/2564 หดตัวลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจของเยอรมนีชะลอตัวลงอีกครั้งในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยการบังคับใช้มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้น ได้ส่งผลให้การบริโภคในภาคครัวเรือนลดลง แต่การส่งออกสินค้าได้ช่วยพยุงเศรษฐกิจเยอรมนีไว้ได้