รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศอาเซียน+3 ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้จัดการประชุมออนไลน์ขึ้นในวันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางในการยกระดับความร่วมมือ พร้อมแลกเปลี่ยนสถานการณ์เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ รวมถึงผลกระทบที่ได้รับจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกรอบการประชุมประจำปีของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ซึ่งจัดขึ้นในวันเดียวกัน
แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ผู้นำทางการเงินจากทั้ง 13 ประเทศเตรียมออกแถลงการณ์ร่วม หลังเสร็จสิ้นการประชุมในครั้งนี้
ในการประชุมทางไกลซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนก.ย. 2563 กลุ่มประเทศดังกล่าวเห็นพ้องที่จะยกระดับความยืดหยุ่นของกรอบความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation: CMIM) เพื่อแก้ไขปัญหาดุลการชำระเงินและสภาพคล่องระยะสั้นในภูมิภาค ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กรอบความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการยกระดับมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) ซึ่งเป็นกรอบข้อตกลงการสวอปเงินตราต่างประเทศที่กำหนดขึ้นในปี 2553 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปีพ.ศ. 2540
ทั้งนี้ ADB เตรียมเปิดศูนย์ข้อมูลภาษีเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Tax Hub) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการแบ่งปันองค์ความรู้และเสริมสร้างความร่วมมือด้านนโยบายภาษีและการบริหาร อันเป็นการยกระดับความช่วยเหลือให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค
สำหรับประเทศกลุ่มอาเซียนนั้น ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม