องค์การสหประชาชาติ (UN) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5.4% ในปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 4.7% เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี UN เตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศยังคงเปราะบาง เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำนักงานฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและสังคมของ UN (DESA) เปิดเผยรายงาน World Economic Situation and Prospects 2021 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกในปี 2564 หลังจากที่หดตัวลง 3.6% ในปี 2563 ขณะที่สองประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลกคือจีนและสหรัฐนั้น มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ UN ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนสู่ระดับ 8.2% ในปีนี้ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 7.2% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐขึ้นสู่ระดับ 6.2% จากระดับ 3.4%
อย่างไรก็ดี UN เตือนว่า แม้แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และการฉีดวัคซีนในหลายประเทศที่มีความคืบหน้าอย่างไม่เท่าเทียมกันนั้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ข้อมูลล่าสุดจาก Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 160,084,748 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,324,986 ราย โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก
รายงานของ UN ยังระบุด้วยว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อยาวนาน ประกอบกับมาตรการด้านการคลังที่ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นอุปสงค์ให้ฟื้นตัวขึ้นนั้น ทำให้หลายประเทศที่มีความเปราะบางมากที่สุดของโลกกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยระบุถึงแนวโน้มการเติบโตของหลายประเทศในเอเชียใต้, ลาตินเมริกาและคาริบเบียนว่า ทิศทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ยังคงเปราะบางและไม่แน่นอน