อาลีบาบา เปิดเผยว่า อาลีบาบาขาดทุนจากการดำเนินงาน 7.66 พันล้านหยวนในไตรมาส 4 ของปีการเงินล่าสุด โดยนายแดเนียล จาง ซีอีโอของบริษัท เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่อาลีบาบาขาดทุนจากการดำเนินงานในฐานะบริษัทมหาชน หลังทางการจีนสั่งปรับอาลีบาบาเป็นเงิน 1.8 หมื่นล้านหยวนในข้อหาผูกขาดตลาดเมื่อเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หากไม่คำนวณรวมค่าปรับดังกล่าวแล้ว อาลีบาบาจะมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.056 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 48% เทียบรายปี
อาลีบาบาทำรายได้รวมสูงกว่าการคาดการณ์ โดยมีรายได้ 1.8739 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 64% เทียบรายปี มากกว่าการคาดการณ์ที่ 1.8041 แสนล้านหยวน
ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 10.32 หยวนต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 12% เทียบรายปี แต่น้อยกว่าการคาดการณ์ที่ 11.12 หยวนต่อหุ้น
ขณะเดียวกัน อาลีบาบาขาดทุนสุทธิ 5.47 พันล้านหยวน ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรสุทธิ 6.95 พันล้านหยวน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ (State Administration for Market Regulation - SAMR) ของจีนได้สั่งปรับบริษัทอาลีบาบาเป็นเงิน 1.8 หมื่นล้านหยวน (2.75 พันล้านดอลลาร์) หรือราว 4% ของรายได้ของบริษัทในปี 2562 เนื่องจากอาลีบาบาละเมิดกฎระเบียบในการต่อต้านการผูกขาดตลาด และใช้สถานะของผู้ครองตลาดไปในทางมิชอบ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้แถลงเตือนเมื่อไม่นานมานี้ว่า รัฐบาลจีนจะติดตามความเคลื่อนไหวของบรรดาบริษัทแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลผู้ใช้งานจำนวนมากและมีอิทธิพลต่อตลาด โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทอินเทอร์เน็ตอย่างใกล้ชิด กวาดล้างพฤติกรรมการผูกขาดตลาด ส่งเสริมการแข่งขันที่ยุติธรรม และป้องกันการขยายทุนอย่างไร้ระเบียบ